แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ชีวิตอยู่ที่คุณเลือก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ชีวิตอยู่ที่คุณเลือก แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เหนื่อยใจ.. แต่ได้อยู่

เพราะคนเราเกิดมาไม่ได้เอาอะไรมาด้วย
สิ่งที่หล่อหลอมให้คนเราเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นเช่นทุกวันนี้
ก็เป็นเพราะการอบรม บ่มเพาะ เลี้ยงดู ทะนุถนอม
ก็เป็นเพราะการศึกษา และสิ่งแวดล้อมที่เคยพบ
ก็เป็นเพราะประสบการณ์ที่เคยผ่าน

หากคนเราทำทุกอย่างเพื่อตัวเราเองเท่านั้น
โลกนี้คงวุ่นวายมากแน่ ๆ
หากเราพึ่งพาแต่คนอื่นเท่านั้น
โลกนี้คงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
หากเราลอกเลียนแต่คนอื่นเท่านั้น
โลกนี้คงไม่มีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีก
หากเรากินอย่างไม่บันยะบันยัง
โลกนี้คงมีคนที่อดอยากเพิ่มมากขึ้น
หากเราไม่คอยช่วยเหลือผู้อื่น
โลกนี้คงเต็มไปด้วยคนเห็นแก่ตัว

ยังดีที่โลกนี้ยังมีคนที่ไม่ได้ทำทุกอย่างเพื่อตัวเองเท่านั้น
ไม่ได้มัวแต่พึ่งพาคนอื่น ไม่ได้เอาแต่บอกเลียนคนอื่น ไม่ได้เห็นแก่ตัว เห็นแก่กิน
โลกนี้จึงยังคงน่าอยู่ อยู่บ้างนะ

หากรู้สึกว่าเหนื่อยใจกับสังคม และคนรอบกาย ก็พักเสียบ้าง
เพราะชีวิตมันสั้นนัก อย่ายึดติดกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเรา
สองประโยคที่ควรยึดไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน (อันนี้ทำได้จริง)
และ
ไม่มีอะไรเป็นจริง แม้แต่ตัวเราเอง จึงไม่มีตัวกู ของกู (อันนี้พยายามทำให้ได้อยู่)

ไม่มีอะไรแค่เหนื่อยใจ
และเขียนเพื่อบันทึกและยืนยันกับตัวเองอีกครั้ง
ว่าผมจะยังคงพยายามเป็นคนที่ดีต่อไปนะ...

วันจันทร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2553

ขอระบาย...

เช้าวันนี้เดินทางออกจากบ้านตามปกติ จากที่มีข่าวว่าสะพานปิ่นเกล้าปิด อาจจะเดินทางไปไม่ได้
แต่ก็คิดว่า ลองผ่านไป คงไม่เสียหายอะไร  ก็ขับไปด้วยความลำบากนิดหน่อย แต่สภาพที่ผมพบ...
รถเมล์ ถูกนำมาขวางทางขึ้นสะพาน รถของทหารหลาย ๆ คัน ถูกนำมาจอดไว้ตามแนวสะพานและนำมาขวางทางขึ้น... รถทั้งหมดถูกทำให้เสียหายอย่างมาก รวมทั้งรื้อสิ่งของภายในรถออกมา...
ถึงจะไม่ได้ยินดี ยินร้ายไปกับเรื่องอะไร ต่อมิอะไร มากมาย แต่สิ่งที่เห็น ข่าวที่ได้รับ...
ข่าวที่ผมได้รับ ไม่ได้ดูเฉพาะข่าวที่ออกภายในประเทศ แต่มีการอ่านผ่านสำนักข่าวต่างประเทศอีกหลายแห่ง...
คงต้องบอกก่อนว่า สิ่งที่จะระบายต่อไปนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมล้วน ๆ นะครับ และผมไม่ใช่คนที่เข้าข้างสีใดสีหนึ่ง

ผมรู้สึกว่าเศร้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน 53 ที่ผ่านมา..
สำหรับผม คนที่เลวจนสมควรตายนั้นมีน้อยมาก หรืออาจจะเรียกว่าไม่มีคนเราสมควรตาย โดยเฉพาะตายจากมือของคนด้วยกันเอง
หมา แมว มันทะเลาะกันยังไม่เล่นกันจนตายเลย...
แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร? ผมเห็นด้วยกับการสลายการชุมนุมครับ
เพราะผมเบื่อและเดือนร้อนจากการชุมนุมของทุกกลุ่มที่เข้ามา
ผมต้องทำงานที่สี่พระยา และสีลม
บ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านอดีตนายก ในกรุงเทพฯ ก็อดีตนายกคนที่เป็นต้นเหตุของปัญหานี้นั่นแหละ
ผมต้องเดินทางผ่านสะพานปิ่นเกล้า และเดินทางกลับผ่านสะพานมัฆวาน เทเวศร์ และสะพานกรุงธน
เหมือนที่ผมเคยบอก ผมถูกลิดรอนสิทธิในการเดินทางไปและกลับบ้านตามปกติ รวมทั้งสิทธิในการเดินทางอย่างปลอดภัยภายในกรุงเทพฯ
และคงไม่คนหลายคนที่เป็นแบบผม และคงไม่อยากเข้าแลก โดยการไปต่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุม เพราะอาจเจ็บตัวหนัก ๆ ได้

มีใครรู้บ้างไหม ว่าบ้านพักรับรองของท่านอดีตนายกนั้น มีรถของคนเสื้อแดงเข้าออกตลอดเวลา มีตำรวจ และคนอื่น ๆ ดูแลอยู่รอบ ๆ บ้าน
ช่วงไหนที่มีการชุมนุม และอาจเกิดเหตุการรุนแรง จะมีรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งคนแถว ๆ นี้รู้ดีว่าเป็นกลุ่มที่ดูแลบ้านของอดีตนายก วิ่งไปมา อยู่เหมือนเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ แล้วยังมีอีกส่วนหนึ่งไปจอดอยู่ตามตรอกซอก ซอยต่าง ๆ เพื่อสังเกตการณ์อีกด้วย

ผมอยู่แถวนี้มาตั้งแต่เกิด ปู่ย่าตายาย เป็นคนพื้นที่ดั้งเดิม ที่มีอาชีพทำสวน
ณ ปัจจุบัน ถึงพื้นที่สวนของบ้านผมจะเหลืออยู่น้อยแล้ว แต่ยังเป็นที่ทำรายได้ให้กับแม่ผมอย่างพออยู่ได้สบาย ๆ พวกเราก็อยู่กันมาอย่างสงบสุข จนท่านอดีตนายก ได้เป็นนายก
วันหนึ่งผมเข้าบ้านดึก ขับรถ ผมโดนตำรวจเรียกเพื่อตรวจสอบที่บริเวณหน้าบ้านของท่าน? ทำไม? บ้านผมอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง
สิทธิการเดินทางอย่างอิสระของผมหายไปตั้งแต่คุณทักษิณเข้ามาเป็นนายกแล้วครับ

สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผมสงสารทหารที่เข้ามาเพื่อสลายการชุมนุม พวกเขาทำหน้าที่ได้อย่างดีและถูกต้อง
แล้วทำไมจึงมีคนตายอีกมีแต่คนพูดถึงผู้ชุมนุมที่ตาย แล้วทหารที่ตายละ? เพราะอะไร?
สิ่งที่ผู้ชุมนุมทำต่อทรัพย์สินของราชการ แสดงถึงอะไร?
เมื่อยึดอะไรได้จากฝ่ายตรงข้าม ต้องทำลายหรือขโมยด้วยเหรอ? เลวมาก ๆ
สันดานดิบล้วน ๆ มีแต่สัตว์เดียรฉานเท่านั้น ที่จะทำลายสิ่งของ และลากเอาซากศพออกมาเพื่อประโยชน์ของพวกมัน
เอาศพมาแห่รอบเมืองเนี่ยนะ.. บ้าไปแล้วครับ..

อย่าพูดอีกว่าพวกคุณเป็นชาวพุทธเลยครับ เพราะพวกคุณมีแต่เปลือกที่เป็นชาวพุทธเท่านั้นเอง
พระพุทธเจ้า ไม่เคยสอนว่าต้องเอาคืนทุก ๆ สิ่ง รวมทั้งอย่าเป็นเชื่อถือยึดมั่นในทุกสิ่ง...
มีแต่สอนให้ไม่จองเวรซึ่งกันและกัน ข้ออ้างที่พวกคุณกล่าวอ้าว ถึงสาเหตุของการชุมนุมก็ไม่โปร่งใสอยู่แล้วยังแฝงไว้ซึ่งความรุนแรง ในคำว่า สันติ อหิงสา อีก เลิกใช้คำว่าชุมนุมด้วยความสันติ และอหิงสา อีกเลยครับ มันเสื่อมคำดี ๆ เปล่า ๆ

มนุษย์ไม่สามารถปกครองด้วยความกลัวได้... หากแต่ปกครองได้ด้วยความเข้าใจและศรัทธา
และหากประชาชนไม่ศรัทธาในกองทัพของตนเองแล้ว ประเทศจะคงอยู่ได้อย่างไร?


ผมไม่ได้อยู่ข้างใด สีใด ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือความรู้สึกกับพวกผู้ชุมนุมเสื้อแดงครับ พวกคุณเป็นกลุ่มที่ไม่สมควรไปคบด้วยครับ อย่างที่

ผมขอประนามผู้ชุมนุมเสื้อแดง และขอให้กำลังใจทหารทุกนายนะครับ

วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

ปริญญาบัตร ความลำบาก และทางเลือก

สัปดาห์ที่ผ่านมามีคำถาม เกี่ยวกับการรับปริญญาบัตร
คำถามสั้น ๆ
"การที่เราต้องลำบากไปรับปริญญามันดีตรงไหน เรียนยังไม่เท่านี้"
รูปภาพจากการไปรับปริญญาเพื่อนในปีนี้ครับ ขอแสดงความยินดีกับบัญฑิตใหม่ทุกท่านครับ

ขออธิบายก่อนว่าตอนที่ผมเรียนจบและถึงเวลาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรนั้น และโดยนิสัยส่วนตัวที่ไม่ชอบอยู่ในกรอบนั้น ทำให้ผมตั้งใจว่าจะไม่รับปริญญา การเข้ารับปริญญา อาจทำให้พ่อแม่ลำบากที่มาร่วมงาน แต่ท่านเต็มใจหรือไม่
แต่ก็มีเหตุผลมากมายที่ทำให้ผมเข้ารับปริญญาในครั้งนั้น ด้วยความเต็มใจ
โดยมีความคิดที่ว่า ผ่านการเรียนที่ลำบากว่านี้ตั้งเยอะ เรายังผ่านมาได้ นับประสาอะไร กับแค่ สอง สาม วันที่เข้ารับปริญญา และเมื่อรับปริญญา และ หลังจากรับปริญญา การได้เห็นหน้า พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ ๆ และ เพื่อน ๆ ที่มาแสดงความยินดี แล้ว ก็รู้สึกว่าเป็นครั้งนึงที่ทำให้คนอื่น ๆ ตั้งหลายคนภูมิใจ โดยเฉพาะพ่อแม่ ทำไมเราต้องคิดถึงแต่เพียงตัวเรา

โลกนี้แย่พอแล้วกับการทำอะไรก็คิดอยู่แต่เฉพาะตัวตนคนเดียว และต่อไปนี้เป็นคำตอบที่ผมตอบคำถามเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปครับ

เนื่องจากคนเราล้วนมีต้นกำเนิด และเนื่องจากต้นกำเนิดที่แตกต่างกัน
ความคิดและการดำเนินชีวิตจึงแตกต่าง
เนื่องจากคนเราล้วนต้องมีพ่อแม่ และพี่น้อง
การแสดงออกซึ่งความกตัญญูจึงมีความหมาย
เนื่องจากคนเราล้วนต้องมีเพื่อนพ้อง
การแสดงและรักษาน้ำใจจึงต้องคงอยู่
เนื่องจากคนเราล้วนต้องมีครอบครัว
ความซื่อสัตย์และจริงใจจึงสำคัญ

หากคิดเพียงตัวเรา
ไม่จำเป็นต้องทำตามกฎ
หากคิดเพียงตัวเรา
ไม่จำเป็นต้องกตัญญู
หากคิดเพียงตัวเรา
ไม่จำป็นต้องมีน้ำใจ
หากคิดเพียงตัวเรา
ไม่จำเป็นต้องซื่อสัตย์

พ่อแม่ย่อมอยากเห็นความสำเร็จของลูก
พี่น้องพ้องเพื่อนก็เช่นกัน
แม้คำพูดอาจจะไม่ แต่ในใจย่อมต้องการ
ภาพที่บันทึกในการรับปริญญา อาจทำให้คุณเหนื่อยหน่าย
แต่พ่อแม่ จะมองด้วยความปิติเสมอ ไม่ใช่เพียงวันที่รับ

หากบอกว่าการเรียนยังไม่เหนื่อยเท่า แสดงว่าคุณยังไม่พบความยากลำบาก จากการเรียน หรือก็เป็นเพราะคุณยังไม่เคยพยายามอย่างเต็มที่

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ขึ้นเขาหรือลงเขาดี

หายไปนานอีกแล้ว เหมือนเดิม ติดเล่นอยู่
ใช้ชีวิตให้เครียดน้อยลง ไม่ตั้งความหวังไว้ที่คนอื่น แล้วก็แบกความหวังของตัวเองให้น้อยลง
บอกตั้งแต่เดือนก่อนแล้วนะว่าจะเปลี่ยนอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิต รู้สึกดีมากเลยตอนนี้ กลับมาเขียนเรื่องที่ตั้งใจทำไว้นานแล้วอีกครั้งไม่ใช่ที่กำลังเขียนอยู่นี่นะ ยังมีเรื่องอื่นอีก ว่าจะเขียนให้เป็นนิยายเป็นเล่มเลย ฮ่า ฮ่า พยายามให้จบก่อนสิ้นปี ถ้าเขียนจบแล้ว ขัดเกลาแล้ว จะเอามาลงเป็นตอน ๆ นะ

เดือนนี้มีเรื่องที่ทำให้รู้สึกผิดหวังนิดหน่อย แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีกับชีวิตตัวเองที่จะได้ไม่ต้องไปเข้าใจว่าจะมีคนเหมือนเรานะคุณคิดอย่างไร กับการที่มีผลโพล สำนักหนึ่งออกมาบอกว่า
"คนไทยยอมรับได้ ถ้านักการเมืองจะโกงนิด ๆ หน่อย ๆ"ผมเคยมีความคิดแบบนี้เมื่อหลายปีมาแล้ว "โกงนิดหน่อย ช่างมัน ทำประโยชน์บ้างก็แล้วกัน" แต่ผมก็เปลี่ยนไปแล้ว การใช้ชีวิตด้านดีและเลวนั้น ไม่สามารถแยกกันได้อย่างชัดเจนหรอก ต้องมีสีเทา ๆ บ้างทั้งนั้น แต่ผมพยายามให้ผมมีสีเทาน้อยที่สุดนะทำให้ผมเลิกคิดตามที่โพลออกมาบอกแล้ว นานแล้วด้วยผมไม่เชื่อที่ว่าแค่โกงนิดหน่อย เพราะขึ้นชื่อว่าโกงแล้ว ไม่มีวันพอหรอก จากหนึ่ง เป็นสอง เป็นสาม สี่ ห้า .... เรื่อยไป มากขึ้นเรื่อย ๆไม่มีจุดอิ่มตัว
ดังนั้นหากเริ่มโกง แล้ว ไม่หยุดซะทันที ก็คงมีแต่จะโกงมากขึ้นเท่านั้นเองแล้วคนโกงจะมีความสุขไหม? นี่เป็นคำถามที่ผมสงสัย สงสัยมานานแล้วด้วย ความสุขที่เกิดจากการโกงคืออะไร?จริงหรือที่คนพวกนี้จะกินอิ่ม นอนหลับอย่างปกติ ผมคิดว่าไม่ใช่ ในเมื่อชีวิตของคนเรามีเท่านี้ ทำไมต้องขวนขวายเพื่อตัวเองขนาดนั้น
พูดแล้วก็เบื่อนะ นี่ยังมีเด็กที่เคยทำงานด้วยกันแต่ตอนนี้ได้ดิบได้ดีแล้ว ในความคิดผม เขาคงเติบโดตขึ้นในทางที่ดี ตอนนี้เขามีบ้าน ซื้อรถยนต์ใหม่แต่ใช้ชีวิตอยู่กับการโกงและการมีจิตใจคับแคบ ไม่ส่งต่อความรู้ให้กับผู้อื่น ความรู้ถึงจะให้คนอื่นไป มันก็ไม่ได้หายไปจากเรานะ แต่เขาก็เปลี่ยนไปมากจากช่วงที่ทำงานอยู่ด้วยกันแล้วพยายามแจกจ่ายความรู้และนิสัยเข้าไป แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว ทำให้มีความรู้สึกว่ามองหน้าเขาได้ไม่สนิทใจอีกนะนี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของการเอาความหวังไปไว้ที่คนอื่น โชคดีที่ผมลดเรื่องการฝากความหวังไปแล้ว เลยไม่ผิดหวัง เพียงแต่ท้อใจนะ

คนจะดีนี้มันเหมือนเดินเท้าเปล่าเข้าป่ารกแถมยังเดินขึ้นเขาละมั้ง ยากลำบากและเหนื่อยอ่อน ต่างกับทางตรงข้ามนะ ถนนโล่ง เดินลง มีรองเท้าสบาย รวดเร็ว แต่ผมยังเชื่อนะว่าปลายทางของสองเส้นทางนี้ต่างกัน
และผมเลือกที่จะเดินขึ้นยอดเขาไปสัมผัสสายหมอก ลมเย็น และบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นและตกสวย ๆ และปลอดภัย
ดีกว่าเดินลงกลางหุบเขาที่เร็วกว่า สบายกว่า แต่ปลายทางเป็นกลางหุบเขาที่วนเวียนอย่างไม่มีทางออก อากาศชื้น อ้าว อึดอัด ไม่เป็นแสงตะวันอาจจะต้องเจอน้ำป่าที่ไหลลงมาจากเข้า หรือสัตว์ร้ายที่ดักอยู่กลางหุบ..วนเวียนอยู่อย่างนั้น ในที่สุดก็เหนื่อยจนไม่อาจเดินขึ้นเขาอีกครั้งได้
ผมอาจจะโชคดีกว่าคนอื่น ตรงที่เคยเดินลงเขาไปครึ่งทางแล้ว แต่ย้อนกลับมาเดินขึ้นเขาได้ทัน เลยมองเห็นว่าปลายทางทั้งสองต่างกันอย่างไร และ ณ ตอนนี้ ผมเลือกแล้วพอแล้ว สำหรับเรื่องท้อใจ

แล้วคุณละ คิดว่าอยากเดินขึ้นเขา หรือเดินลงเขาดี ชีวิตคุณก็อยู่ที่คุณนะ