แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เลย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เลย แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

บุญผะเหวด แห่ผีตาโขน ๒๕๕๗

เที่ยงวันผีตาโขนก็ต้องมีพักผ่อนกันบ้าง
ถอดหัวผีออกพักกันอยู่ข้างโบสถ์
ออกมาจากเชียงคานละ ทิ้งเรื่องราวค้างคาใจไว้ที่ริมแม่โขง เช้าวันต่อมาก็ออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าสู่อ.ด่านซ้าย เป้าหมายของการเดินทางครั้งนี้ ขับรถออกจากที่พักแถวถ้ำผาปู่ ขับรถขึ้นภูเรือบนทางหลวงหลายเลข 203 ช่วงเริ่มต้นของการเดินทาง เห็นเป้าหมายเป็นสัปปะรดข้างทาง ที่ชาวบ้านเอามาขาย เห็นกำลังขนลงจากรถอีแต๋นเล็ก ๆ เลยแวะซื้อและสอบถามด้วยความอยากรู้ว่าพันธุ์อะไร "อ๋อ ก็พันธุ์บ้านเรานี่แหละจ้า" ได้คำตอบเลยว่ากำลังชิม สัปปะรดพันธุ์บ้านเราอยู่นะ ขับรถตามเส้นทางบนภูเรือด้วยความสบายตา สบายใจ
แตกต่างกับความหดหู่ที่พบเห็นจากช่วงภูหลวง ภูหอ ถนนยังดี ป่าข้างทางยังเขียวขจี ทิวทัศน์ข้างทางแบบนี้แหละ ที่เหมาะกับการเดินทางเพื่อการพักผ่อนจริง ๆ ขับเรื่อย ๆ สบาย ๆ ระหว่างทางเห็นรีสอร์ท กับร้านกาแฟริมทาง เรื่อย ๆ ไม่ต้องกลัวเหงา หรืออยากเติมคาเฟอีนก็ลองเลือกดูเอาซักร้านนึง ใช้ชีวิตเดินทางท่องเที่ยว อย่าคาดหวังอะไรมาก อย่าเชื่อคู่มือท่องเที่ยวไปซะหมด ถ้าเชื่อหมด จะเหลืออะไรไว้ให้ค้นหา ให้จินตนาการ กันเล่าพ่อนักเดินทางทั้งหลาย


ใช้เวลาซักชั่วโมงครึ่งก็เข้าสู่อ.ด่านซ้ายเกือบ เวลาเกือบ 10.30 น. การจราจรเริ่มติดขัด ตัดสินใจจอดรถหน้าโรงพยาบาลแล้วลงเดินทาง เป้าหมาย "วัดโพนชัย" จุดเริ่มต้นของบุญผะเหวด
แล้วบุญผะเหวด และประเพณีผีตาโขน คืออะไรล่ะ? ขอเล่าให้ฟังในฐานะคนเดินทางคนนึง อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะเป็นเพียงประสบการณ์ที่พบเห็นกับเรื่องที่ได้คุยกับผู้คนที่อยู่ในพื้นที่นะครับ


งานบุญผะเหวด เป็นงานบุญมหาชาติ ที่กล่าวถึงพระเวสสันดร ถือเป็นงานบุญหลวงของชาวอีสาน  จัดขึ้นในช่วงเดือน 7 ซึ่งไม่ได้มีแต่ที่จ.เลยนะครับ ตามภาคอีสาน หรือภาคเหนือก็มี อย่างงานบุญบั้งไฟ นั่นก็ใช่ โดยหลัก ๆ แล้วจะแบ่งออกเป็น 3 วัน วันแรก (27 มิ.ย. 57) เป็นวันโฮม แต่เช้ามืดมีพิธีเบิกพระอุปคุตต์ เพื่อนำมาร่วมบุญ วันที่สอง (28 มิ.ย. 57) เป็นวันแห่ผะเหวด วันนี้เป็นวันที่จะมีการแห่แหนขบวนของผีตาโขน ขบวนของเจ้าพ่อกวน เจ้าแม่เทียม "ผีตาโขน" เป็นคำที่กลายมาจากคำว่า "ผีตามคน" ที่ได้รับอิทธิพลจากมหาเวสสันดรชาดก ที่เมื่อพระเวสสันดรและพระนางมัทรี จะเสด็จกลับจากป่าเข้าสู่เมือง เหล่าสัตว์ป่าและผีสางนางไม้ ต่างก็เศร้าใจ อาลัยในการลาจาก จึงพากันตามมาส่งเข้าสู่เมือง ซึ่งผีตาโขน จะแบ่งเป็นผีตาโขนเล็กที่เราเห็นทั่ว ๆ ไป แต่งตัวใส่หน้ากาก และผีตาโขนใหญ่ ทำจากไม้ไผ่สานทำเป็นผีใหญ่กว่าคนร่วมสองเท่า โดยเมื่อเสร็จงานแห่แหนแล้ว พอพลบค่ำ ก็จะมีการนำผีตาโขนใหญ่ไปทิ้ง เพื่อเป็นการทิ้งโชคร้าย ทิ้งความเศร้าโศก วันที่สาม (29 มิ.ย. 57) วันสุดท้าย แต่เช้ามืดจะมีการเทศน์มหาชาติทั้ง 13 กัณฑ์ ที่วัดโพนชัย เพื่อเป็นกุศลศิริมงคลแก่ผู้มาร่วมงานบุญ

ผมมีโอกาสเข้าร่วมงานประเพณีนี้แค่วันเดียวคือวันแห่ผีตาโขน ความสนุกสนาน ความคิดสร้างสรรค์ ยังบวกรวมกับวัฒนธรรมเก่าดั้งเดิมได้อย่างไร้รอยต่อ ภาพผีตาโขนใหญ่ ที่แบ่งผู้ชาย ผู้หญิงชัดเจน หรือผีตาโขนน้อย จำนวนมาก สีสันหลายหลาย การเต้นรำที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของผีตาโขน การร่ายรำที่อ่อนช้อยงดงามไม่หยุดของเหล่าคนทรงเทพ ขบวนเสลี่ยงของเจ้าพ่อกวน เจ้าแม่เทียม 

เต้นกันไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย
ขบวนร่ายรำตาม ขบวนแห่เจ้าพ่อกวน เจ้าแม่เทียม
 ทุกสิ่งทุกอย่างที่สัมผัส ตื่นตาตื่นใจ ชวนให้หลงใหล ไปกับชาวบ้าน ที่วัดโพนชัย จะเป็นจุดที่ขบวนผีตโขนทุกขบวนมาจบลง เหมือนเป็นการส่งพระเวสสันดรกลับสู่เมืองนั่นเอง
ภายในวัดโพนชัย ยังมีพิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ให้เข้าไปศึกษา และหลวงพ่อใหญ่ที่สวยงานอยู่ในอุโบสถอีกด้วย

ไปร่วมงานบุญงานประเพณีเขาด้วยความกลมกลืนอยากรู้อยากเห็น ประทับใจกับงานกับผู้คนกับวัฒนธรรม ประเพณี เสียอย่างเดียวไม่มีโอกาสชิมข้าวโพดตักหงาย ที่เขาว่ากินเพลิน กินอร่อยจนลืมตัว กินเสร็จลุกขึ้น อิ่มจนหงายหลังไม่รู้ตัว ข้าโพดชื่อดังของด่านซ้ายเลยคราวนี้ แล้วก็ยังไม่ได้รู้เลยว่าพวกคนที่เอาโลนชุบตัวเดินในขบวนมีความหมายยังไง ไว้ปีหน้าฟ้าใหม่ เวลาเป็นตา โอกาสเป็นใจ ค่อยมาเยือนใหม่นะ ผีตาโขน ด่านซ้าย
มนุษย์โคลนในขบวนแห่ ยังไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร?
ขบวนแห่จากอำเภอต่างๆ เพื่อไปวัดโพนชัย
ผีตาโขนเล็ก
ผีตาโขนใหญ่ ผัว เมีย 


วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เชียงคาน.. การเดินทางก่อนจุดหมาย

ประเพณี บุญผะเหวด ที่มีขบวนผีตาโขนคอยแห่แหน งานประจำปียิ่งใหญ่ ทีอ.ด่านซ้าย จ.เลย ที่ตั้งใจว่าจะไปร่วมชมมาหลายปีแล้ว ปีนี้ก็สามารถจัดสรร จัดการตัวเองให้ไปร่วมชมงานได้ซักที สำหรับปีนี้ (พ.ศ. 2557) งานประเพณีตรงกับวันที่ 27, 28 และ 29 มิถุนายน ได้เวลาเดินทางไปชมกันแล้ว
ด้วยเวลาที่จำกัด ทำให้ต้องเดินทางในวันที่ 27 ก็ต้องยอมพลาดไปสำหรับงานวันแรก ขับรถออกจากกรุงเทพ เป้าหมาย จังหวัดเลย ไปตามทางหลวงหลักมุ่งหน้า สระบุรี เพชรบูรณ์และสุดท้ายที่ จ.เลย
วันแรกตั้งใจว่าจะลองไปเชียงคาน ระหว่างที่ขับรถช่วงหล่มเก่า-ด่านซ้าย เลยเลี้ยวขวาเข้าทล. 2016 วิ่งขึ้นเขาลงห้วยกันไป ไม่อยู่ในทางหลัก อาจพบเจอกับสิ่งที่แปลกตามากขึ้น เป็นการขับรถเกือบ 2 ชั่วโมงอยู่บนสันเขา โดยพบเจอรถยนต์คันอื่น ๆ ไม่ถึง 10 คัน ได้เจออุโมงค์ต้นไม้สวยๆ

ได้เห็นภูหลวง และภูหอเต็ม ๆ ตา แต่ในความงามก็ย่อมมีบาดแผล เพราะระหว่างทางพบเจอแต่ภูเขาหัวโล้น ป่าที่โดนโค่นทำลายเพื่อการใด ๆ ไม่ทราบ และได้ประโยชน์ จริงหรือไม่ก็ไม่รู้ ซึ่งสร้างความหดหู่ เศร้าใจ กับความสูญเสียที่พบเห็น

เมื่อเข้าเมืองเลย ก็เลยไปเชียงคาน เมืองริมโขงสุดฮิต ที่ใคร ๆ ก็อยากมา แต่เมื่อได้มาสัมผัสก็พบว่าเชียงคาน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและถนนคนเดินธรรมดาไปแล้ว มีเสื้อผ้าเหมือน ๆ กัน ขายอยู่ทั่วไป สินค้าที่หาซื้อได้เกือบทุกที่ทั่วประเทศ

"คนเขาไม่สนใจจะส่งไปรษณีย์กันแล้วพี่ ก็ซบเซาลงหน่อย"
คำพูดจากพ่อค้าโปสเตอร์ทำมือบอก ร้านของเขาตั้งวางสินค้าไว้บนจักรยานเก่า ๆ ขายโปสการ์ดที่ทำจากรูปถ่ายของตัวเองและเพื่อน ๆ ที่บันทึกไว้ในจังหวัดเลย นำมาขายที่เชียงคาน ริมโขงนี่ ที่แปลกสำหรับผมก็คือ โปสการ์ดไม้ที่ทำเป็นภาพพิมพ์ไม้และใช้ส่งไปรษณีย์ได้จริง สวยและไอเดียดี นอกจากนี้ก็ได้ลองกินกุ้งแม่โขงปิ้ง ตัวเล็ก ๆ เค็ม ๆ อร่อยดีเหมือนกัน ไม้ละ 10 บาท "กินได้ทั้งเปลือกเลยจ้า ยายไปรับกุ้งมาปิ้งเอง" คุณยายที่นั่งขายอยู่บอกมา ผมได้เดินชมบ้านเก่าเมืองแก่ ที่ว่ากันว่าสวยงาม ซึ่งตอนนี้ส่วนใหญ่ก็กลายเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวกันไปหมดแล้ว อาหารการกินที่เหมือนจะเปลี่ยนรสชาดไปตามคนที่มาเยี่ยมชม

ถนนคนเดินสำหรับเชียงคาน อาคารเก่า สวย ความหลากหลายของอาหารถิ่น สินค้าทำมือ ของพื้นเมืองจากชาวบ้าน ในความรู้สึกผม ยังสู้ กาดกองต้า ที่ จ.ลำปางไม่ได้เลย

กลับจากเชียงคานเข้าสู่ที่พักแถวถ้าผาปู่ นอนมองดาวในวันฟ้าใส พลางคิดไปว่านานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้มองดาวบนฟ้าชัด ๆ แบบนี้

ผมอาจไม่มีเวลามองหา ศึกษาเชียงคานนานนัก เพียงอยากจะบอกว่า หากไม่มีอัตลักษณ์ของท้องถิ่น หรือสถานที่นั้น ๆ วันนึงข้างหน้า อาจไม่มีเชียงคานที่สวยงามและสงบให้คนไปเยี่ยมชมอีกต่อไป
ว่าจะเขียนเรื่องผีตาโขน กลายมาเป็นเชียงคานได้ยังไงไม่รู้

เพราะภาพที่ได้รับ สิ่งที่ได้สัมผัส กับเรื่องที่ได้ยินมา เนื้อหาที่เคยอ่าน มันช่างแตกต่างกันเกินไป
หรือเพราะตัวผมเองยังไม่เปิดตา เปิดใจค้นหา ใช้เวลากับเชียงคานให้มากกว่านี้กันแน่
ไว้ค่อยมาเล่าเรื่องผีตาโขนกับความประทับใจให้ฟังอีกที