แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เสื่อมศรัทธา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เสื่อมศรัทธา แสดงบทความทั้งหมด
วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2555
พระบรมธาตุเจดีย์
เขียนโดย
Unknown
ที่
11:48
สิบกว่าปีก่อน ช่วงปี 2540 ได้เดินทางลงไปทำงานทางใต้บ่อย ๆ ซึ่งรวมไปทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย
แน่นอนว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อน สิ่งต่าง ๆ ย่อมแตกต่างไปจากปัจจุบัน ร้านชา กาแฟ โรตี มีมากขึ้น แต่ที่มากกว่าคือร้านเหล้าตามซอยเล็กซอยน้อย
อันเป็นผลมาจากช่วงตื่นจตุคามเมื่อหลายปีก่อน ทำให้เศรษฐกิจเมืองคอนคึกคักมาก มีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินทางมาที่นี่บ่อย ๆ รวมทั้งผมด้วย
เพียงแต่เหตุของการมาต่างกัน หลาย ๆ คนมาเพื่อตักตวงประโยชน์จากความเชื่อในจตุคาม และความศรัทธาในพระบรมธาตุเจดีย์
ผมมาเพราะการทำงานและเรื่องเที่ยวล้วน ๆ ไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับจตุคามแต่อย่างใด ในสายตาคนนอกแบบผม การบรรทุกจตุคามมาบนรถสิบล้อเพื่อทำการปลุกเสก เป็นเรื่องที่เกินคาดคิด และน่าจะทำให้เกิดปัญหากับถนนโดยรอบและองค์พระบรมธาตุเจดีย์เอง และก็เป็นความจริงตามข่าวเมื่อไม่กี่ปีก่อน
พระบรมธาตุเจดีย์ในช่วงที่จตุคามได้รับความนิยมนั้น เป็นช่วงที่ผมทำเพียงนั่งจิบกาแฟหน้าวัด แต่ไม่เคยเข้าไปชมเลย
และในที่สุดก็เป็นไปตามหลักความจริงที่สุดของโลก เมื่อมีขึ้นก็มีลง เมื่อมีศรัทธาก็มีเสื่อมศรัทธา จตุคามก็เสื่อมความนิยมลง
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีโอกาสไปทำงานที่นครศรีธรรมราชอีกครั้ง ยังคงเป็นเมืองที่มองหาชาวต่างชาติเดินชมเมืองได้น้อยมาก ทั้งที่มีสถานที่น่าสนใจมากมาย อาจเป็นเพราะความงดงามตามหาดทราย ทะเล และเกาะแก่งต่าง ๆ มาบดบังซะหมด
พระบรมธาตุเจดีย์ ในวันที่จตุคามเสื่อมความนิยม กลับดูงดงามยิ่งใหญ่
เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความศรัทธา มองดูน่าเลื่อมใส อาจเป็นเพราะปลอดจากคนที่เข้ามาเป็นเหลือบริ้นเกาะกินกระแสศรัทธา ทำให้ผู้ที่มาต่างก็มองเห็นความเป็นพระบรมธาตุเจดีย์จริง ๆ โดยไม่มีความเป็นจตุคามมาเบียดบัง
วันที่เข้าไปชมพระบรมธาตุเจดีย์ล่าสุดเป็นวันที่กำลังได้ขึ้นบัญชีขั้นต้นสำหรับการเป็นมรดกโลก
พระบรมธาตุเจดีย์มีความเหมาะสมกับการเป็นมรดกโลกที่คนทั่วโลกชื่นชม ทั้งด้านความงดงามและประวัติศาสตร์
หากมีโอกาสก็แนะนำให้ไปชมนะครับ ช่วงหลังนี้พระบรมธาตุเจดีย์งดงามมากจริง ๆ
เมื่อปลอดจากเหลือบริ้นที่เกาะกินกระแสศรัทธา ความงดงามที่แท้จริงก็กระจ่างออกมา
คนเราหากปล่อยให้อคติบังตา ย่อมมองความเป็นจริงไม่เห็นนั่นแหละ
วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ขนาดโคลัมบัสยังโดน นับประสาอะไร....
เขียนโดย
Unknown
ที่
07:57
ช่วงนี้กำลังอ่าน "กุศโลบายสร้างความยิ่งใหญ่" ของพลตรีหลวงวิจิตรวาทการอยู่
ก็เช่นเคย เนื่องจากเป็นหนังสือที่เขียนมานานแล้ว ภาษาที่ใช้จึงไม่คุ้น ทำให้ผมต้องใช้เวลาในการอ่านมากซักหน่อย
แต่ก็ยังคงเป็นหนังสือที่ให้ความรู้ได้เหมือนเดิม อย่างที่ผมเคยบอกไว้ หนังสือดีคือหนังสือที่เราอ่าน อ่านแล้วคิด คิดแล้วเข้าใจ
ที่อ่านไม่ได้อยากอ่านเพื่อจะสร้างกุศโลบายอะไร เพื่อให้ตัวผมยิ่งใหญ่ เพราะไม่เคยอยากยิ่งใหญ่ ไม่เคยทะเยอทะยาน
แต่ที่อ่านก็เพื่อทำความเข้าใจ และหาความรู้จากคนรุ่นก่อน ผมศึกษาอดีต เพื่อเข้าใจปัจจุบัน แล้วก็วางแผนในอนาคต..
การได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็ได้เข้าใจความคิดและความรู้ต่าง ๆ เยอะขึ้นนะ ยกตัวอย่างเรื่องอเมริกา โคลัมบัสเป็นคนค้นพบทวีปนี้ แต่ทำไมทวีปนี้ไม่ได้ชื่อว่า โคลัมบัส
นั่นเพราะ โคลัมบัส เป็นผู้ค้นพบก็จริง แต่ไม่ได้ประกาศออกไป เลยถูกคนอย่างนายอเมริโก เวสปุจจี เอาไปประกาศซะ ว่าเป็นผู้ค้นพบ แล้วก็ตั้งชื่อว่าอเมริกา
หลังจากนั้นอีกตั้งนาน กว่าโลกจะยอมรับว่า ทวีปอเมริกา ถูกค้นพบโดยโคลัมบัส ไม่ใช่ อเมริโก...
รู้สึกยังไงครับ ทวีปอเมริกา ถูกค้นพบมาสองร้อยกว่าปีแล้ว กระทั่งปัจจุบัน คนเราก็ยังคงมีคนนิสัยอย่างนายอเมริโกอยู่ด้วยตลอดมา
ก็ดีนะ เพราะเวลาที่เจอกับอาการคล้าย ๆ แบบนี้ เวลาที่เราทำอะไร แล้วโดนคนอื่นเอาไปใช้ เอาไปอ้าง ก็คิดเพิ่มได้อีกนะ ว่า ขนาดโคลัมบัส ยังโดนเลย นับประสาอะไร...
เมื่อก่อนวันอาฬาหบูชา ไปทำบุญที่วัด ที่ผมเคยบวช เจ้าอาวาสบ้านผมเคารพนับถือกัน เพิ่งจะมรณภาพ ก่อนหน้านั้นก็เคยมีการแจกบัตรสนเท่ห์ จนหลวงพี่ที่คอยดูแลวัดมาตลอดเป็นสิบปี
ช่วยอดีตเจ้าอาวาสพัฒนาวัด จนเป็นแหล่งเรียนรู้ทางพุทธศาสนาดี ๆ ต้องลาสิกขาออกไป ตั้งแต่ตอนนั้นศรัทธาที่อยู่กับวัดนี้ ก็เริ่มสั่นคลอนละ พอเจ้าอาวาสมรณภาพ การประกาศแต่งตั้งเจ้าอาวาสองค์ใหม่
ก็เป็นพระที่ชาวบ้านว่ากันว่าเป็นองค์ที่เขียนบัตรสนเท่ห์ เพิ่งเข้ามาจำวัดได้ไม่กี่ปี ก็เป็นเจ้าอาวาสแล้ว หลวงน้า หลวงตา หลวงพี่ เก่า ๆ ที่ดูแลวัดมาตลอด ไม่ได้แต่งตั้ง แต่ไม่ได้ขัดขวางอะไร
ลองถามหลวงน้าดู ท่านตอบมาดีมาก "เขาอยากเป็น ก็ให้เขาเป็นไป เราอยู่อย่างบริสุทธิ์อย่างนี้ดีแล้ว" เป็นคำตอบที่ชัดเจนมาก เพราะหากพระยังหลงอยู่ใน ลาภ ยศ สรรเสริญ ก็แสดงว่ายังไม่เข้าใจคำสั่งสอน
ของพระพุทธเจ้า ทุกสิ่ง ทุกอย่าง เป็นสิ่งไม่แน่นอน ไม่มีอะไรเป็นของเราจริง ๆ แม้แต่ตัวเราเองนะ ทำไมจึงต้องขวนขวาย แสวงหาขนาดนั้น
วันนั้นที่ไปทำบุญมีคนมาทำบุญประมาณสิบครอบครัว น้อยที่สุดตั้งแต่ผมมาทำบุญที่วัดนี้ทั้งที่เป็นวันหยุด วันอาทิตย์ อาจเป็นเพราะช่วงวันหยุดยาวเข้าพรรษา หรืออาจเป็นเพราะศรัทธาลงลงก็ได้
ศรัทธาในวัดลดลง แต่ศรัทธาในพุทธศาสนา ยังคงเดิม บ้านผมเลยตกลงว่าจะมาทำบุญที่วัดใกล้บ้านหน่อย เดินไปได้ โดยปกติ ก้ไปทำบุญที่วัดนี้บ้าง แต่ไม่บ่อยนัก แต่หลังจากนี้คงเป็นวัดทำบุญหลักละ
ก็สะดวกดี วัดที่ทำบุญบ่อย ๆ ห่างบ้านไปประมาณ กิโลกว่า ๆ แต่วัดใกล้บ้านนี่ แค่สามร้อยเมตร.. สะดวกสำหรับแม่ด้วย วัดพระที่ไม่ตรงวัดหยุด จะได้ไปทำบุญสะดวกขึ้น
แต่โดยปกติ ที่ตักบาตรทุกเช้า ก็ตักบาตรกับวัดนี้นะ ดังนั้นก็เหมือนทำบุญที่เดิม เพิ่มขึ้นนั่นเอง..
พอวันอาฬาหบูชา ก็มาทำบุญที่วัดนี้กัน คนเยอะมากกว่าทุกครั้งที่เคยมาทำบุญ.. ด้วยความที่ไม่คุ้นเคย ก็ทำอะไรที่ผิดพลาดไปบ้าง ไว้ปรับปรุงในคราวหน้าละกันนะ
สิ่งต่าง ๆ ย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไป ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความรู้ ความเข้าใจ ในช่วงเวลาที่ผ่านไป
แม้ความคิด ความเชื่อก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพียงแต่คนเราจะเปลี่ยนแปลงไปทางดีขึ้นหรือเลวลงก็เท่านั้น
เอาไว้อ่าน "กุศโลบายสร้างความยิ่งใหญ่" จบแล้ว จะมาเล่าให้ฟัง
อาจจะทำให้ผมมองโลกได้กว้างขึ้น อาจจะทำให้ผมเข้าเข้ามนุษย์มากขึ้น อาจจะทำให้ผมมีความคิดดี ๆ เพิ่มขึ้น
แล้วมาลองดูกันว่าจะพัฒนาความคิดของเราได้ไหม?
ก็เช่นเคย เนื่องจากเป็นหนังสือที่เขียนมานานแล้ว ภาษาที่ใช้จึงไม่คุ้น ทำให้ผมต้องใช้เวลาในการอ่านมากซักหน่อย
แต่ก็ยังคงเป็นหนังสือที่ให้ความรู้ได้เหมือนเดิม อย่างที่ผมเคยบอกไว้ หนังสือดีคือหนังสือที่เราอ่าน อ่านแล้วคิด คิดแล้วเข้าใจ
ที่อ่านไม่ได้อยากอ่านเพื่อจะสร้างกุศโลบายอะไร เพื่อให้ตัวผมยิ่งใหญ่ เพราะไม่เคยอยากยิ่งใหญ่ ไม่เคยทะเยอทะยาน
แต่ที่อ่านก็เพื่อทำความเข้าใจ และหาความรู้จากคนรุ่นก่อน ผมศึกษาอดีต เพื่อเข้าใจปัจจุบัน แล้วก็วางแผนในอนาคต..
การได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็ได้เข้าใจความคิดและความรู้ต่าง ๆ เยอะขึ้นนะ ยกตัวอย่างเรื่องอเมริกา โคลัมบัสเป็นคนค้นพบทวีปนี้ แต่ทำไมทวีปนี้ไม่ได้ชื่อว่า โคลัมบัส
นั่นเพราะ โคลัมบัส เป็นผู้ค้นพบก็จริง แต่ไม่ได้ประกาศออกไป เลยถูกคนอย่างนายอเมริโก เวสปุจจี เอาไปประกาศซะ ว่าเป็นผู้ค้นพบ แล้วก็ตั้งชื่อว่าอเมริกา
หลังจากนั้นอีกตั้งนาน กว่าโลกจะยอมรับว่า ทวีปอเมริกา ถูกค้นพบโดยโคลัมบัส ไม่ใช่ อเมริโก...
รู้สึกยังไงครับ ทวีปอเมริกา ถูกค้นพบมาสองร้อยกว่าปีแล้ว กระทั่งปัจจุบัน คนเราก็ยังคงมีคนนิสัยอย่างนายอเมริโกอยู่ด้วยตลอดมา
ก็ดีนะ เพราะเวลาที่เจอกับอาการคล้าย ๆ แบบนี้ เวลาที่เราทำอะไร แล้วโดนคนอื่นเอาไปใช้ เอาไปอ้าง ก็คิดเพิ่มได้อีกนะ ว่า ขนาดโคลัมบัส ยังโดนเลย นับประสาอะไร...
เมื่อก่อนวันอาฬาหบูชา ไปทำบุญที่วัด ที่ผมเคยบวช เจ้าอาวาสบ้านผมเคารพนับถือกัน เพิ่งจะมรณภาพ ก่อนหน้านั้นก็เคยมีการแจกบัตรสนเท่ห์ จนหลวงพี่ที่คอยดูแลวัดมาตลอดเป็นสิบปี
ช่วยอดีตเจ้าอาวาสพัฒนาวัด จนเป็นแหล่งเรียนรู้ทางพุทธศาสนาดี ๆ ต้องลาสิกขาออกไป ตั้งแต่ตอนนั้นศรัทธาที่อยู่กับวัดนี้ ก็เริ่มสั่นคลอนละ พอเจ้าอาวาสมรณภาพ การประกาศแต่งตั้งเจ้าอาวาสองค์ใหม่
ก็เป็นพระที่ชาวบ้านว่ากันว่าเป็นองค์ที่เขียนบัตรสนเท่ห์ เพิ่งเข้ามาจำวัดได้ไม่กี่ปี ก็เป็นเจ้าอาวาสแล้ว หลวงน้า หลวงตา หลวงพี่ เก่า ๆ ที่ดูแลวัดมาตลอด ไม่ได้แต่งตั้ง แต่ไม่ได้ขัดขวางอะไร
ลองถามหลวงน้าดู ท่านตอบมาดีมาก "เขาอยากเป็น ก็ให้เขาเป็นไป เราอยู่อย่างบริสุทธิ์อย่างนี้ดีแล้ว" เป็นคำตอบที่ชัดเจนมาก เพราะหากพระยังหลงอยู่ใน ลาภ ยศ สรรเสริญ ก็แสดงว่ายังไม่เข้าใจคำสั่งสอน
ของพระพุทธเจ้า ทุกสิ่ง ทุกอย่าง เป็นสิ่งไม่แน่นอน ไม่มีอะไรเป็นของเราจริง ๆ แม้แต่ตัวเราเองนะ ทำไมจึงต้องขวนขวาย แสวงหาขนาดนั้น
วันนั้นที่ไปทำบุญมีคนมาทำบุญประมาณสิบครอบครัว น้อยที่สุดตั้งแต่ผมมาทำบุญที่วัดนี้ทั้งที่เป็นวันหยุด วันอาทิตย์ อาจเป็นเพราะช่วงวันหยุดยาวเข้าพรรษา หรืออาจเป็นเพราะศรัทธาลงลงก็ได้
ศรัทธาในวัดลดลง แต่ศรัทธาในพุทธศาสนา ยังคงเดิม บ้านผมเลยตกลงว่าจะมาทำบุญที่วัดใกล้บ้านหน่อย เดินไปได้ โดยปกติ ก้ไปทำบุญที่วัดนี้บ้าง แต่ไม่บ่อยนัก แต่หลังจากนี้คงเป็นวัดทำบุญหลักละ
ก็สะดวกดี วัดที่ทำบุญบ่อย ๆ ห่างบ้านไปประมาณ กิโลกว่า ๆ แต่วัดใกล้บ้านนี่ แค่สามร้อยเมตร.. สะดวกสำหรับแม่ด้วย วัดพระที่ไม่ตรงวัดหยุด จะได้ไปทำบุญสะดวกขึ้น
แต่โดยปกติ ที่ตักบาตรทุกเช้า ก็ตักบาตรกับวัดนี้นะ ดังนั้นก็เหมือนทำบุญที่เดิม เพิ่มขึ้นนั่นเอง..
พอวันอาฬาหบูชา ก็มาทำบุญที่วัดนี้กัน คนเยอะมากกว่าทุกครั้งที่เคยมาทำบุญ.. ด้วยความที่ไม่คุ้นเคย ก็ทำอะไรที่ผิดพลาดไปบ้าง ไว้ปรับปรุงในคราวหน้าละกันนะ
สิ่งต่าง ๆ ย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไป ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความรู้ ความเข้าใจ ในช่วงเวลาที่ผ่านไป
แม้ความคิด ความเชื่อก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพียงแต่คนเราจะเปลี่ยนแปลงไปทางดีขึ้นหรือเลวลงก็เท่านั้น
เอาไว้อ่าน "กุศโลบายสร้างความยิ่งใหญ่" จบแล้ว จะมาเล่าให้ฟัง
อาจจะทำให้ผมมองโลกได้กว้างขึ้น อาจจะทำให้ผมเข้าเข้ามนุษย์มากขึ้น อาจจะทำให้ผมมีความคิดดี ๆ เพิ่มขึ้น
แล้วมาลองดูกันว่าจะพัฒนาความคิดของเราได้ไหม?
วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553
หนึ่งเดือนที่ผ่านมา เพื่อน.. คนรู้จัก.. คนที่เดินผ่านกัน..
เขียนโดย
Unknown
ที่
09:04
ไม่ได้เขียนอะไรซะนาน เรื่องราวต่าง ๆ ในหัวก็เยอะแยะ อาจทำให้เก็บมาคิดมากเกินไปได้ เอาออกมาซะบ้างนะ
เดือนนี้ผ่านเรื่องราวหลายอย่างทั้งดีและไม่ดีนะ ได้พบเพื่อใหม่ ๆ สถานที่ใหม่ ๆ ได้นั่งดูฟุตบอลโลก ได้เล่นเกมใหม่ ๆ
เลยไม่ได้เขียนอะไรเลย ลองเอาออกจากหัวมาเล่าสู่กันฟังละกันนะครับ
เอาเรื่องดี ๆ ก่อนนะ พวกคุณอาจจะไม่เชื่อ ว่าผมโชคดีได้ LCD TV 32 นิ้ว จากการเล่นเกมในอินเตอร์เน็ต!
ไม่ต้องงง ได้มาแล้ว โดยไม่ได้ตั้งใจด้วย เพราะการเล่นเกมของผม หากไม่แข่งกับตัวเกมเอง ก็แข่งกับตัวเอง หรือแข่งกับเพื่อน
แล้วก็ไม่เคยเก็บมาเครียด หรือเป็นอารมณ์กับมันนะ เกมนี้ก็เหมือนกัน ก็เล่นแข่งกับเพื่อ เพราะคะแนนไม่ได้นำเหมือนคนอื่นเขา
แต่คนที่นำอยู่โดนตัดสิทธิ์ เพราะเล่นผิดกติกา เลยได้รางวัลมา ก็แปลกใจนะ แต่ถือว่าเป็นโชคดีละกัน
ส่วนเรื่องไม่ดีก็คือมีคนพยายามร้องเรียนว่าผมทำผิดกติกา ถึงขนาดเอาข้อมูลส่วนตัวผมไปโพสต์บนอินเตอร์เน็ต
ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรนะ นอกจากบอกให้เขาเอาข้อมูลผมออก แต่ผมไม่สละสิทธิ์นะเพราะคิดว่าผมไม่ได้ผิดอะไร
จนวันเข้าไปรับรางวัลถึงรู้ว่า คนหรือกลุ่มคนที่ร้องเรียนเรื่องผมนะ เป็นกลุ่มที่ได้รางวัลรองจากผม เจตนาชัดเจนกันมาก
เพราะเล่นกันเป้นกลุ่ม ได้รางวัลทั้งกลุ่ม เพราะพยายามผิดกติกา จึงคิดว่าคนอื่นต้องทำผิดเหมือนตนด้วย
น่าเศร้าใจกับบ้านเรานะ เพราะยังงี้ละมั่ง บ้านเราถึงไม่เจริญดี ๆ กันซะที เพราะคนบ้านเรา พยายามที่จะจับผิด โดยตัวเองทำผิด และเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง
พยายามใส่ความผู้อื่น เพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้อง โดยไม่มองถึงความถูกต้อง
อายุไม่ได้เป็นเพียงจำนวนปีที่เราได้อยู่ในโลกใบนี้นะครับ มันหมายถึงสิ่งที่เราเรียนรู้ตลอดมา และสิ่งที่เราจะสอนไปสู่คนรุ่นต่อไปด้วย
เรื่องดี ๆ อีกเรื่องคือเดือนนี้ได้ไปปลูกป่าชายเลนที่สมุทรสงคราม กับเพื่อนในเว็บ Play3Thai.com ก็ได้ทั้งความสนุกความสุขใจ และได้รู้จักคนใหม่ ๆ เพื่อนใหม่ ๆ
เป็นประสบการณ์ที่ดีนะครับ หากในหนึ่งปีรู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ดี ๆ เพิ่มซักคนนึงก็คุ้มแล้ว
พอปลูกป่าเสร็จ พวกจาก P3T ก็ไปเที่ยวหัวหินกันต่อ ผมกับเพื่อนก็กลับกรุงเทพฯ ก่อนกลับพี่เอก็ชวนไปไหว้พระที่ค่ายบางกุ้ง Unseen Thailand ที่โบสถ์มีต้นโพปรกทั้งโบสถ์น่ะ
แล้วก็ไปต่ออัมพวา ทั้งที่ฝนตก ๆ นั่นแหละ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ กินกันอ้วนเลย อัมพวาตอนนี้มีของกินกับงานศิลป์ แล้วก้เริ่มมีร้านเหล้าซะแล้ว
ถ้าอัมพวาพัฒนาไปมากกว่านี้ เสน่ห์ของอัมพวาอาจจะหายไปก็ได้นะ
ส่วนช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงอารมณ์ที่ต้องเรียกว่าอึมครึมนิดหน่อย เพราะงานเยอะละมั่ง
แต่คงไม่เป็นไรหรอก เพราะเดี๋ยวฝนตก ฟ้าก็ใสแล้ว บางทีดีกว่านั่น อาจได้เห็นรุ้งด้วยนะ..
ถ้าต้องโกหก เพื่อความก้าวหน้า
ขอพูดความจริง แล้วเดินไปช้า ๆ ดีกว่า
ถ้าคบกันนับถือกัน แต่ไม่ให้ความจริงใจให้กัน
ขอเป็นเพียงคนรู้จัก ไม่ต้องเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกันดีกว่า
ถ้ารู้จักกัน แต่ยังโกหก หักหลังกัน
ขอเป็นเพียงคนที่เดินผ่านกันดีกว่า
ขอบคุณรูปจากคุณนาย (ninewit) play3thai.com
เดือนนี้ผ่านเรื่องราวหลายอย่างทั้งดีและไม่ดีนะ ได้พบเพื่อใหม่ ๆ สถานที่ใหม่ ๆ ได้นั่งดูฟุตบอลโลก ได้เล่นเกมใหม่ ๆ
เลยไม่ได้เขียนอะไรเลย ลองเอาออกจากหัวมาเล่าสู่กันฟังละกันนะครับ
เอาเรื่องดี ๆ ก่อนนะ พวกคุณอาจจะไม่เชื่อ ว่าผมโชคดีได้ LCD TV 32 นิ้ว จากการเล่นเกมในอินเตอร์เน็ต!
ไม่ต้องงง ได้มาแล้ว โดยไม่ได้ตั้งใจด้วย เพราะการเล่นเกมของผม หากไม่แข่งกับตัวเกมเอง ก็แข่งกับตัวเอง หรือแข่งกับเพื่อน
แล้วก็ไม่เคยเก็บมาเครียด หรือเป็นอารมณ์กับมันนะ เกมนี้ก็เหมือนกัน ก็เล่นแข่งกับเพื่อ เพราะคะแนนไม่ได้นำเหมือนคนอื่นเขา
แต่คนที่นำอยู่โดนตัดสิทธิ์ เพราะเล่นผิดกติกา เลยได้รางวัลมา ก็แปลกใจนะ แต่ถือว่าเป็นโชคดีละกัน
ส่วนเรื่องไม่ดีก็คือมีคนพยายามร้องเรียนว่าผมทำผิดกติกา ถึงขนาดเอาข้อมูลส่วนตัวผมไปโพสต์บนอินเตอร์เน็ต
ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรนะ นอกจากบอกให้เขาเอาข้อมูลผมออก แต่ผมไม่สละสิทธิ์นะเพราะคิดว่าผมไม่ได้ผิดอะไร
จนวันเข้าไปรับรางวัลถึงรู้ว่า คนหรือกลุ่มคนที่ร้องเรียนเรื่องผมนะ เป็นกลุ่มที่ได้รางวัลรองจากผม เจตนาชัดเจนกันมาก
เพราะเล่นกันเป้นกลุ่ม ได้รางวัลทั้งกลุ่ม เพราะพยายามผิดกติกา จึงคิดว่าคนอื่นต้องทำผิดเหมือนตนด้วย
น่าเศร้าใจกับบ้านเรานะ เพราะยังงี้ละมั่ง บ้านเราถึงไม่เจริญดี ๆ กันซะที เพราะคนบ้านเรา พยายามที่จะจับผิด โดยตัวเองทำผิด และเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง
พยายามใส่ความผู้อื่น เพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้อง โดยไม่มองถึงความถูกต้อง
อายุไม่ได้เป็นเพียงจำนวนปีที่เราได้อยู่ในโลกใบนี้นะครับ มันหมายถึงสิ่งที่เราเรียนรู้ตลอดมา และสิ่งที่เราจะสอนไปสู่คนรุ่นต่อไปด้วย
เรื่องดี ๆ อีกเรื่องคือเดือนนี้ได้ไปปลูกป่าชายเลนที่สมุทรสงคราม กับเพื่อนในเว็บ Play3Thai.com ก็ได้ทั้งความสนุกความสุขใจ และได้รู้จักคนใหม่ ๆ เพื่อนใหม่ ๆ
เป็นประสบการณ์ที่ดีนะครับ หากในหนึ่งปีรู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ดี ๆ เพิ่มซักคนนึงก็คุ้มแล้ว
พอปลูกป่าเสร็จ พวกจาก P3T ก็ไปเที่ยวหัวหินกันต่อ ผมกับเพื่อนก็กลับกรุงเทพฯ ก่อนกลับพี่เอก็ชวนไปไหว้พระที่ค่ายบางกุ้ง Unseen Thailand ที่โบสถ์มีต้นโพปรกทั้งโบสถ์น่ะ
แล้วก็ไปต่ออัมพวา ทั้งที่ฝนตก ๆ นั่นแหละ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ กินกันอ้วนเลย อัมพวาตอนนี้มีของกินกับงานศิลป์ แล้วก้เริ่มมีร้านเหล้าซะแล้ว
ถ้าอัมพวาพัฒนาไปมากกว่านี้ เสน่ห์ของอัมพวาอาจจะหายไปก็ได้นะ
ส่วนช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงอารมณ์ที่ต้องเรียกว่าอึมครึมนิดหน่อย เพราะงานเยอะละมั่ง
แต่คงไม่เป็นไรหรอก เพราะเดี๋ยวฝนตก ฟ้าก็ใสแล้ว บางทีดีกว่านั่น อาจได้เห็นรุ้งด้วยนะ..
ถ้าต้องโกหก เพื่อความก้าวหน้า
ขอพูดความจริง แล้วเดินไปช้า ๆ ดีกว่า
ถ้าคบกันนับถือกัน แต่ไม่ให้ความจริงใจให้กัน
ขอเป็นเพียงคนรู้จัก ไม่ต้องเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกันดีกว่า
ถ้ารู้จักกัน แต่ยังโกหก หักหลังกัน
ขอเป็นเพียงคนที่เดินผ่านกันดีกว่า
ขอบคุณรูปจากคุณนาย (ninewit) play3thai.com
วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553
ถนนยิ่งกว้าง น้ำใจยิ่งน้อยลง [หยุดเถอะขยายถนน เขาใหญ่]
เขียนโดย
Unknown
ที่
08:20
วันนี้ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกไม่สดชื่น เหนื่อย ๆ เพลีย ๆ
ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เพราะอากาศ เพราะบรรยากาศ เพราะ.... ฯลฯ ตอบไม่ได้

มนุษย์มีสิทธิอะไรในการตัดต้นไม้อายุเยอะ ๆ พวกนี้ บ้านเมืองเรายังมีถนนไม่พออีกเหรอ ทำไมต้องเพิ่มถนน เพื่อให้รถเดินทางสบายขึ้น
เหมือนที่เคยเขียนไว้ ยิ่งถนนใหญ่ขึ้น น้ำใจยิ่งน้อยลง
สัตว์พวกนี้เดินทางตามปกติใช่ไหม? ถนนที่สร้างขึ้นทีหลังขวางทางเดินตามปกติของพวกเขาใช่ไหม? แล้วถ้าถนนเพิ่มเป็นสี่เลน หมายความว่าระยะความเสี่ยงของสัตว์เหล่านนั้น ก็จะเพิ่มขึ้นใช่ไหม? เพิ่มอีกสองเลน หมายความว่าต้องตายเพิ่มขึ้นสองเท่าใช่ไหม?
ไม่หรอก เพราะอัตราการตายจะเพิ่มเป็นแบบยกกำลัง... ต้องสังเวยต้นไม้ พันธ์พืช สัตว์ และแมลงอีกเท่าไหร่ มนุษย์ถึงจะพอ...
ไม่พูดถึงเรื่องการเป็นมรดกโลกนะ พูดแค่เรื่องมรดกให้ลูกหลานของพวกเรา
มรดกโลก เป็นเรื่องสมมุติที่สร้างขึ้นเพื่อร้องขอค่าใช้จ่ายจากองค์กรภายใน หากไม่มีการสนับสนุนจากภายนอก พวกเราจะรักษาไว้ไม่ได้ใช่ไหม?
เพราะเมื่อก่อนนี้ ผมเดินทางไปเขาใหญ่บ่อย ๆ หลาย ๆ ที่ในเขาใหญ่ ประทับใจผมเสมอ จนอาจรู้สึกกังวลว่า ถ้าไปครั้งนี้จะเจอความเปลี่ยนแปลงอะไรไปจนเกินพอดีหรือไม่
ผมเคยขับรถเจอช้างป่าเดินข้ามถนนในเขาใหญ่ เที่ยวน้ำตกเหวนรก เหวสุวัต แล้วก็อีกหลาย ๆ ที่ เคยไปเที่ยวเขาใหญ่ ตั้งแต่ยังไม่มีจังหวัดสระแก้ว...
พอเห็นข่าวการตัดไม้ เพื่อขยายถนน จึงมีความรู้สึกหดหู่ ขึ้นมาเพราะความผูกพันตั้งแต่ครั้งก่อน
ตัวผมเองก็พยายามที่จะเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับสิ่งอื่น ๆ โดยให้เกิดการทำลายน้อยที่สุด
มนุษย์ไม่เคยเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันกับสิ่งอื่น... โดยไม่มีการทำลายเกิดขึ้น
หากต้องการอนุรักษ์ธรรมชาติทั้งหลาย ไม่ใช่เริ่มที่การปลูกต้นไม้ แต่ต้องเริ่มจากการปลูกจิตสำนึกให้กับมนุษย์ก่อน
คงเป็นไปไม่ได้แล้วในรุ่นปัจจุบัน แต่ในอนาคตคงสามารถปลูกจิตสำนึก ให้กับลูกหลานของเราได้
โลกในอนาคตคงจะดีขึ้น ถ้าคนรุ่นนี้ไม่ทำลายไปหมดเสียก่อน
ตอนนี้ก็ได้เพียงปลูกต้นไม้ สร้างจิตสำนึกให้หลาน ๆ และมีความหวังให้กับอนาคต...
หากเห็นว่าการเดินทางด้วยรถยนต์สำคัญกว่าต้นไม้ จนต้องขยายถนนเพื่อความสะดวกสบาย
จะมีอุทยานไว้ทำไม เมื่อคุณต้องการอนุรักษ์ธรรมชาติ ย่อมต้องเข้าใจว่าเมื่อคุณอยากเข้าชมความงาม ความสะดวกสบาย ไม่ใช่อันดับหนึ่ง พวกคุณอยากชื่นชมความงามของธรรมชาติ หรือชื่นชมถนนสี่เลนกัน
หยุดเสียเถอะขยายถนน อุทยานเขาใหญ่ ใครที่ทำช่วยคิดหน่อยนะ ถ้าเจอจะไม่ไหว้ให้เสียมือเลย...
โธ่ ไอ้มนุษย์!!!
รักษ์เขาใหญ่ รักษ์โลก
ขอบคุณภาพจาก กระดานเสวนาชมรมอนุรักษ์ http://student.sut.ac.th/anurukclub/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)