ด้วยเวลาที่จำกัด ทำให้ต้องเดินทางในวันที่ 27 ก็ต้องยอมพลาดไปสำหรับงานวันแรก ขับรถออกจากกรุงเทพ เป้าหมาย จังหวัดเลย ไปตามทางหลวงหลักมุ่งหน้า สระบุรี เพชรบูรณ์และสุดท้ายที่ จ.เลย
วันแรกตั้งใจว่าจะลองไปเชียงคาน ระหว่างที่ขับรถช่วงหล่มเก่า-ด่านซ้าย เลยเลี้ยวขวาเข้าทล. 2016 วิ่งขึ้นเขาลงห้วยกันไป ไม่อยู่ในทางหลัก อาจพบเจอกับสิ่งที่แปลกตามากขึ้น เป็นการขับรถเกือบ 2 ชั่วโมงอยู่บนสันเขา โดยพบเจอรถยนต์คันอื่น ๆ ไม่ถึง 10 คัน ได้เจออุโมงค์ต้นไม้สวยๆ
ได้เห็นภูหลวง และภูหอเต็ม ๆ ตา แต่ในความงามก็ย่อมมีบาดแผล เพราะระหว่างทางพบเจอแต่ภูเขาหัวโล้น ป่าที่โดนโค่นทำลายเพื่อการใด ๆ ไม่ทราบ และได้ประโยชน์ จริงหรือไม่ก็ไม่รู้ ซึ่งสร้างความหดหู่ เศร้าใจ กับความสูญเสียที่พบเห็น
เมื่อเข้าเมืองเลย ก็เลยไปเชียงคาน เมืองริมโขงสุดฮิต ที่ใคร ๆ ก็อยากมา แต่เมื่อได้มาสัมผัสก็พบว่าเชียงคาน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและถนนคนเดินธรรมดาไปแล้ว มีเสื้อผ้าเหมือน ๆ กัน ขายอยู่ทั่วไป สินค้าที่หาซื้อได้เกือบทุกที่ทั่วประเทศ
"คนเขาไม่สนใจจะส่งไปรษณีย์กันแล้วพี่ ก็ซบเซาลงหน่อย"
คำพูดจากพ่อค้าโปสเตอร์ทำมือบอก ร้านของเขาตั้งวางสินค้าไว้บนจักรยานเก่า ๆ ขายโปสการ์ดที่ทำจากรูปถ่ายของตัวเองและเพื่อน ๆ ที่บันทึกไว้ในจังหวัดเลย นำมาขายที่เชียงคาน ริมโขงนี่ ที่แปลกสำหรับผมก็คือ โปสการ์ดไม้ที่ทำเป็นภาพพิมพ์ไม้และใช้ส่งไปรษณีย์ได้จริง สวยและไอเดียดี นอกจากนี้ก็ได้ลองกินกุ้งแม่โขงปิ้ง ตัวเล็ก ๆ เค็ม ๆ อร่อยดีเหมือนกัน ไม้ละ 10 บาท "กินได้ทั้งเปลือกเลยจ้า ยายไปรับกุ้งมาปิ้งเอง" คุณยายที่นั่งขายอยู่บอกมา ผมได้เดินชมบ้านเก่าเมืองแก่ ที่ว่ากันว่าสวยงาม ซึ่งตอนนี้ส่วนใหญ่ก็กลายเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวกันไปหมดแล้ว อาหารการกินที่เหมือนจะเปลี่ยนรสชาดไปตามคนที่มาเยี่ยมชม
ถนนคนเดินสำหรับเชียงคาน อาคารเก่า สวย ความหลากหลายของอาหารถิ่น สินค้าทำมือ ของพื้นเมืองจากชาวบ้าน ในความรู้สึกผม ยังสู้ กาดกองต้า ที่ จ.ลำปางไม่ได้เลย
กลับจากเชียงคานเข้าสู่ที่พักแถวถ้าผาปู่ นอนมองดาวในวันฟ้าใส พลางคิดไปว่านานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้มองดาวบนฟ้าชัด ๆ แบบนี้
ผมอาจไม่มีเวลามองหา ศึกษาเชียงคานนานนัก เพียงอยากจะบอกว่า หากไม่มีอัตลักษณ์ของท้องถิ่น หรือสถานที่นั้น ๆ วันนึงข้างหน้า อาจไม่มีเชียงคานที่สวยงามและสงบให้คนไปเยี่ยมชมอีกต่อไป
ว่าจะเขียนเรื่องผีตาโขน กลายมาเป็นเชียงคานได้ยังไงไม่รู้
เพราะภาพที่ได้รับ สิ่งที่ได้สัมผัส กับเรื่องที่ได้ยินมา เนื้อหาที่เคยอ่าน มันช่างแตกต่างกันเกินไป
หรือเพราะตัวผมเองยังไม่เปิดตา เปิดใจค้นหา ใช้เวลากับเชียงคานให้มากกว่านี้กันแน่
ไว้ค่อยมาเล่าเรื่องผีตาโขนกับความประทับใจให้ฟังอีกที
กลับจากเชียงคานเข้าสู่ที่พักแถวถ้าผาปู่ นอนมองดาวในวันฟ้าใส พลางคิดไปว่านานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้มองดาวบนฟ้าชัด ๆ แบบนี้
ผมอาจไม่มีเวลามองหา ศึกษาเชียงคานนานนัก เพียงอยากจะบอกว่า หากไม่มีอัตลักษณ์ของท้องถิ่น หรือสถานที่นั้น ๆ วันนึงข้างหน้า อาจไม่มีเชียงคานที่สวยงามและสงบให้คนไปเยี่ยมชมอีกต่อไป
ว่าจะเขียนเรื่องผีตาโขน กลายมาเป็นเชียงคานได้ยังไงไม่รู้
เพราะภาพที่ได้รับ สิ่งที่ได้สัมผัส กับเรื่องที่ได้ยินมา เนื้อหาที่เคยอ่าน มันช่างแตกต่างกันเกินไป
หรือเพราะตัวผมเองยังไม่เปิดตา เปิดใจค้นหา ใช้เวลากับเชียงคานให้มากกว่านี้กันแน่
ไว้ค่อยมาเล่าเรื่องผีตาโขนกับความประทับใจให้ฟังอีกที