วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

หมอสุรัชต์ กับหนูมะลิ

ศุกร์ที่แล้วพา "มะลิ" ลูกสาว (หมา) ไปทำหมันมาครับ หลังจากลองคุยกับสัตวแพทย์ สองคน คนนึงมีร้านอยู่ใกล้บ้านมาก ๆ แล้วก็เคยพาแมวไปทำหมันแล้ว 5 ตัว
แต่ก็ตัดสินใจเลือกสัตวแพทย์อีกท่านนึงที่ร้านอยู่หน้าปากซอยบ้านแทนด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง
อย่างตอนที่ไปคุยกับคุณหมอท่านนี้ ในร้านเต็มไปด้วยหมาแมว พิการที่แกเลี้ยงเอาไว้เอง เต็มไปหมด
จนนึกไม่ออกว่าจะรักษายังไง แล้วคุณหมอแกยังคุยให้คำแนะนำที่ฟังแล้วรู้สึกดี ๆ กับตัวแกเองด้วย

พอวันศุกร์ที่แล้วเลยนัดคุณหมอไว้ประมาณบ่ายสองโมง เพราะต้องงดข้าวงดน้ำก่อนอย่างน้อยแปดชั่วโมงตามที่ปรึกษาคุณหมอไว้แล้วผมก็พลาดจนได้ ดันพา หนูมะลิไปถึงเกือบบ่ายสามโมง ขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากซอย แค่ห้านาทีเอง แสดงว่าผมผิดเต็ม ๆ คุณหมอเลยออกไปข้างนอก พอกลับมาก็สามโมงแล้วแกเลยขอนัดเป็นหกโมงครึ่ง หรือวันเสาร์ไปเลย ผมเลยเลือกหกโมงครึ่ง ไม่อยากให้หนูมะลิอดข้าวไปอีกวันนึง แล้วพากลับบ้าน เอาใส่กรง โดยปกติไม่เคยขังเลยนะ ทั้งลูกชาย "มะระ" แล้วก็ลูกสาว "มะลิ" อิสระเต็มที่ เลยสงสารหกโมงกว่า ๆ พาออกมาอีกที คุณหมอไปฉีดยาให้ข้างนอก เลยยืนคุณกับพี่อีกคนที่เขาพาหมามารักษาเหมือนกัน
คนที่มารอหมอคงตลกกับท่าทางของหนูมะลิน่ะก็เขาไม่คุ้นที่ พอเอาออกจากตะกร้า ก็กระโดดกอดเลย ถ้านึกไม่ออกก็เหมือนเราอุ้มเด็กน่ะ ลืมบอกไป หนูมะลิ เป็นหมาพันธ์ทางสีเกือบขาว อายุแปดเดือน หน้าตาตลก ๆพอคุณหมอมา พี่เขาก็รักษาก่อน หมาพี่เขาเป็นแผลที่ขานะ หมาพันธ์ทางเหมือนกัน หน้าตาตลกมาก ๆ รอบตาข้างซ้ายมีวงดำ ๆ เป็นหมีแพนด้าเลยพอเสร็จแล้วพี่เขาก็กลับก่อน
จากนั้นก็มีอีกครอบครัวนึงมารอแต่เมื่อไม่ได้ผ่าตัดก็เลยให้ปรึกษาแล้วก็รักษากับหมอไปก่อน หมอซักถามอาการละเอียดมาก ๆ ตอนนี้ ผู้ช่วยคุณหมอก็มาชั่งน้ำหนกหนูมะลิ แล้วก็เตรียมยาสลบ ได้วางหนูมะลิซะที อุ้มมาเป็นชั่วโมงแล้ว หนักตั้งแปดกิโลสามขีดนะ
พอหนูมะลิหลับ ผู้ช่วยหมอก็พอเข้าห้องพอตัด พอหมดคุยกับคนไข้ข้างนอกเสร็จ ก็เข้าไปผ่าตัดหนูมะลิ
ช่วงที่รอมีแม่ลูกคู่นึงหิ้วตะกร้าใส่พุดเดิ้ลมานั้นข้าง ๆ ซักพักได้ยินเสียงเหมียว ๆ จากตะกร้า เลยงง คุยกันปรากฎว่าแม่พุดเดิ้ล ช่วยเอาลูกแมวที่ตกจากหลังคาหลังจากแม่แมวโดนวางยาเบื่อมาเลี้ยง น่ารักดี
แล้วจากประสบการณ์ของผมเคยเลี้ยงลูกแมวที่ไม่มีแม่มาแล้วสองครอก ครอกแรกห้าตัว เหลือหนึ่ง อีกครอกรอดหมดทั้งสามตัว เลยเล่าประสบการณ์ให้เขาฟัง แล้วหมอก็มาช่วยอธิบายแนะนำแล้วฉีดยาบำรุงให้ลูกแมวตัวนึงที่อาการไม่ดี
แล้วคุณหมอก็เข้าไปทำหมันให้มะลิต่อ แม่มะลิก็มาถึงร้านหมอพอดี ด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี เป็นห่วงลูกสาวพอคุณหมอทำหมัน มะลิ เสร็จแล้วอุ้มออกมา แม่มะลิแฟนผมเห็นเข้าก็ร้องไห้เลย สงสารลูก
คุณหมอว่าไม่ต้องตัดไหม.. (ที่พาแมวไปทำที่ร้านอื่น ต้องพากลับมาตัดไหมด้วยนะ)
พากลับบ้าน ในสภาพที่ยังหลับอยู่ เอาใส่กรงในขณะที่เจ้ามะระเป็นห่วงน้องมาก ๆ จนอยู่ไม่ห่างกรงเลย น่ารักมาก
เช้าวันเสาร์ลูกสาวก็เดินได้แล้ว แถมยังกัดผ้าพันแผลอีก เลยต้องดึงออกให้ ปรากฏว่าแผลผ่าตัดมองแทบไม่ออก เหมือนมีคนเอาปากกาแดงมาขีดที่ท้องหนูมะลิเท่านั้นเอง คุณหมอเขาเก่งจริง ๆ ครับ
นี่ก็ครบอาทิตย์แล้ว หนูมะลิ ปกติมาก ๆ นอกจากกินเก่งขึ้นมาเท่านั้นเอง เดือนหน้าก็ตาเจ้ามะระบ้างแล้ว หึ หึ หึ

หากใครตองการสัตว์แพทย์ดี ๆ เก่ง ๆ แถมยังรักสัตว์มาก ก็ลองมาหาคุณหมอได้นะครับ
คุณหมอสุรัชต์ เกษมมงคลชัย
สุรัชต์ สัตวแพทย์757/26 ถ.สิรินธร บางพลัด
ร้านอยู่ตีนสะพานข้ามแยกบางพลัดฝั่งที่วิ่งมาจากตลิ่งชันครับ อยู่ตึกแถวใกล้ ๆ ร้านสมใจนึก
เบอร์โทร 024357007 (ไม่เคยโทรนะ จดมาจากป้ายหน้าร้านครับ)

พบคนดี ๆ หมอดี ๆ สถานที่ดี ๆ หรือของดี ๆ ก็จะนำมาบอกกันครับ

ขึ้นเขาหรือลงเขาดี

หายไปนานอีกแล้ว เหมือนเดิม ติดเล่นอยู่
ใช้ชีวิตให้เครียดน้อยลง ไม่ตั้งความหวังไว้ที่คนอื่น แล้วก็แบกความหวังของตัวเองให้น้อยลง
บอกตั้งแต่เดือนก่อนแล้วนะว่าจะเปลี่ยนอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิต รู้สึกดีมากเลยตอนนี้ กลับมาเขียนเรื่องที่ตั้งใจทำไว้นานแล้วอีกครั้งไม่ใช่ที่กำลังเขียนอยู่นี่นะ ยังมีเรื่องอื่นอีก ว่าจะเขียนให้เป็นนิยายเป็นเล่มเลย ฮ่า ฮ่า พยายามให้จบก่อนสิ้นปี ถ้าเขียนจบแล้ว ขัดเกลาแล้ว จะเอามาลงเป็นตอน ๆ นะ

เดือนนี้มีเรื่องที่ทำให้รู้สึกผิดหวังนิดหน่อย แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีกับชีวิตตัวเองที่จะได้ไม่ต้องไปเข้าใจว่าจะมีคนเหมือนเรานะคุณคิดอย่างไร กับการที่มีผลโพล สำนักหนึ่งออกมาบอกว่า
"คนไทยยอมรับได้ ถ้านักการเมืองจะโกงนิด ๆ หน่อย ๆ"ผมเคยมีความคิดแบบนี้เมื่อหลายปีมาแล้ว "โกงนิดหน่อย ช่างมัน ทำประโยชน์บ้างก็แล้วกัน" แต่ผมก็เปลี่ยนไปแล้ว การใช้ชีวิตด้านดีและเลวนั้น ไม่สามารถแยกกันได้อย่างชัดเจนหรอก ต้องมีสีเทา ๆ บ้างทั้งนั้น แต่ผมพยายามให้ผมมีสีเทาน้อยที่สุดนะทำให้ผมเลิกคิดตามที่โพลออกมาบอกแล้ว นานแล้วด้วยผมไม่เชื่อที่ว่าแค่โกงนิดหน่อย เพราะขึ้นชื่อว่าโกงแล้ว ไม่มีวันพอหรอก จากหนึ่ง เป็นสอง เป็นสาม สี่ ห้า .... เรื่อยไป มากขึ้นเรื่อย ๆไม่มีจุดอิ่มตัว
ดังนั้นหากเริ่มโกง แล้ว ไม่หยุดซะทันที ก็คงมีแต่จะโกงมากขึ้นเท่านั้นเองแล้วคนโกงจะมีความสุขไหม? นี่เป็นคำถามที่ผมสงสัย สงสัยมานานแล้วด้วย ความสุขที่เกิดจากการโกงคืออะไร?จริงหรือที่คนพวกนี้จะกินอิ่ม นอนหลับอย่างปกติ ผมคิดว่าไม่ใช่ ในเมื่อชีวิตของคนเรามีเท่านี้ ทำไมต้องขวนขวายเพื่อตัวเองขนาดนั้น
พูดแล้วก็เบื่อนะ นี่ยังมีเด็กที่เคยทำงานด้วยกันแต่ตอนนี้ได้ดิบได้ดีแล้ว ในความคิดผม เขาคงเติบโดตขึ้นในทางที่ดี ตอนนี้เขามีบ้าน ซื้อรถยนต์ใหม่แต่ใช้ชีวิตอยู่กับการโกงและการมีจิตใจคับแคบ ไม่ส่งต่อความรู้ให้กับผู้อื่น ความรู้ถึงจะให้คนอื่นไป มันก็ไม่ได้หายไปจากเรานะ แต่เขาก็เปลี่ยนไปมากจากช่วงที่ทำงานอยู่ด้วยกันแล้วพยายามแจกจ่ายความรู้และนิสัยเข้าไป แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว ทำให้มีความรู้สึกว่ามองหน้าเขาได้ไม่สนิทใจอีกนะนี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของการเอาความหวังไปไว้ที่คนอื่น โชคดีที่ผมลดเรื่องการฝากความหวังไปแล้ว เลยไม่ผิดหวัง เพียงแต่ท้อใจนะ

คนจะดีนี้มันเหมือนเดินเท้าเปล่าเข้าป่ารกแถมยังเดินขึ้นเขาละมั้ง ยากลำบากและเหนื่อยอ่อน ต่างกับทางตรงข้ามนะ ถนนโล่ง เดินลง มีรองเท้าสบาย รวดเร็ว แต่ผมยังเชื่อนะว่าปลายทางของสองเส้นทางนี้ต่างกัน
และผมเลือกที่จะเดินขึ้นยอดเขาไปสัมผัสสายหมอก ลมเย็น และบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นและตกสวย ๆ และปลอดภัย
ดีกว่าเดินลงกลางหุบเขาที่เร็วกว่า สบายกว่า แต่ปลายทางเป็นกลางหุบเขาที่วนเวียนอย่างไม่มีทางออก อากาศชื้น อ้าว อึดอัด ไม่เป็นแสงตะวันอาจจะต้องเจอน้ำป่าที่ไหลลงมาจากเข้า หรือสัตว์ร้ายที่ดักอยู่กลางหุบ..วนเวียนอยู่อย่างนั้น ในที่สุดก็เหนื่อยจนไม่อาจเดินขึ้นเขาอีกครั้งได้
ผมอาจจะโชคดีกว่าคนอื่น ตรงที่เคยเดินลงเขาไปครึ่งทางแล้ว แต่ย้อนกลับมาเดินขึ้นเขาได้ทัน เลยมองเห็นว่าปลายทางทั้งสองต่างกันอย่างไร และ ณ ตอนนี้ ผมเลือกแล้วพอแล้ว สำหรับเรื่องท้อใจ

แล้วคุณละ คิดว่าอยากเดินขึ้นเขา หรือเดินลงเขาดี ชีวิตคุณก็อยู่ที่คุณนะ