วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555

ฝนตก


ฝนตกเรื่อย ๆ ติดต่อกันทำให้คนเราเกิดอาการประมาณเหงา เศร้า ซึม ขึ้นมาได้ ดังนั้นการมีแสงแดดจึงมีความสำคัญ เพราะแสงแดดจะทำให้มนุษย์มีความตื่นตัว กระปรี้ประเปร่า มากขึ้น
ถึงผมจะชอบฝนตก แต่ก็ชอบเวลามีแดดด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าสิ่งไหนในโลกย่อมมี 2 ด้านเสมอ คงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับทั้ง 2 ด้าน และเลือกเอาด้านที่ดีกว่ามาใช้ในชีวิตนะ

สิ่งหนึงที่ฝนตกทำให้ผมสบายขึ้นคือไม่ต้องรดน้ำมากนัก ต้นไม้ ดอกไม้ที่บานก็ชุ่มช่ำ ที่ไม่ต้องรดน้ำมากนัก เพราะบางส่วนยังต้องรดน้ำอยู่เพราะวางไว้ในร่ม เพื่อจำกัดปริมาณน้ำ
ส่วนที่ชอบแดดก็เพราะถ้าไม่มีแดด ใบไม้ ก็ไม่สามารถสังเคราะห์แสง เพื่อสร้างอาหารให้ตัวเองได้ กระเจี๊ยบแดงที่บ้านก็ติดดอก ใกล้จะได้กินน้ำกระเจี๊ยบละ ผักคะน้าก็โตขึ้น ผักโขม ก็ได้กินกันวันนี้ละ
กล้วยไม้ก็ออกดอก มะกรูดก็ออกผล อากาศก็ชุ่มชื่น เย็นสบาย กลางคืน กบ เขียด คางคก ก็ส่งเสียงร้องระงม ผมชอบฝนตกจริง ๆ ดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่าง จะมีชีวิตชีวามากขึ้น

เรื่องคราวนี้สั้น ๆ นิ่ง ๆ เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว
ไม่มีสิ่งใดในโลกจะอยู่ได้ตลอดไป แล้วคนเราจะแสวงหา จนมากเกินไป ให้เครียดไปทำไมนะ

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2555

พระบรมธาตุเจดีย์


สิบกว่าปีก่อน ช่วงปี 2540 ได้เดินทางลงไปทำงานทางใต้บ่อย ๆ ซึ่งรวมไปทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย
แน่นอนว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อน สิ่งต่าง ๆ ย่อมแตกต่างไปจากปัจจุบัน ร้านชา กาแฟ โรตี มีมากขึ้น แต่ที่มากกว่าคือร้านเหล้าตามซอยเล็กซอยน้อย
อันเป็นผลมาจากช่วงตื่นจตุคามเมื่อหลายปีก่อน ทำให้เศรษฐกิจเมืองคอนคึกคักมาก มีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินทางมาที่นี่บ่อย ๆ รวมทั้งผมด้วย
เพียงแต่เหตุของการมาต่างกัน หลาย ๆ คนมาเพื่อตักตวงประโยชน์จากความเชื่อในจตุคาม และความศรัทธาในพระบรมธาตุเจดีย์

ผมมาเพราะการทำงานและเรื่องเที่ยวล้วน ๆ ไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับจตุคามแต่อย่างใด ในสายตาคนนอกแบบผม การบรรทุกจตุคามมาบนรถสิบล้อเพื่อทำการปลุกเสก เป็นเรื่องที่เกินคาดคิด และน่าจะทำให้เกิดปัญหากับถนนโดยรอบและองค์พระบรมธาตุเจดีย์เอง และก็เป็นความจริงตามข่าวเมื่อไม่กี่ปีก่อน

พระบรมธาตุเจดีย์ในช่วงที่จตุคามได้รับความนิยมนั้น เป็นช่วงที่ผมทำเพียงนั่งจิบกาแฟหน้าวัด แต่ไม่เคยเข้าไปชมเลย
และในที่สุดก็เป็นไปตามหลักความจริงที่สุดของโลก เมื่อมีขึ้นก็มีลง เมื่อมีศรัทธาก็มีเสื่อมศรัทธา จตุคามก็เสื่อมความนิยมลง


ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีโอกาสไปทำงานที่นครศรีธรรมราชอีกครั้ง ยังคงเป็นเมืองที่มองหาชาวต่างชาติเดินชมเมืองได้น้อยมาก ทั้งที่มีสถานที่น่าสนใจมากมาย อาจเป็นเพราะความงดงามตามหาดทราย ทะเล และเกาะแก่งต่าง ๆ มาบดบังซะหมด
พระบรมธาตุเจดีย์ ในวันที่จตุคามเสื่อมความนิยม กลับดูงดงามยิ่งใหญ่
เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความศรัทธา มองดูน่าเลื่อมใส อาจเป็นเพราะปลอดจากคนที่เข้ามาเป็นเหลือบริ้นเกาะกินกระแสศรัทธา ทำให้ผู้ที่มาต่างก็มองเห็นความเป็นพระบรมธาตุเจดีย์จริง ๆ โดยไม่มีความเป็นจตุคามมาเบียดบัง

วันที่เข้าไปชมพระบรมธาตุเจดีย์ล่าสุดเป็นวันที่กำลังได้ขึ้นบัญชีขั้นต้นสำหรับการเป็นมรดกโลก
พระบรมธาตุเจดีย์มีความเหมาะสมกับการเป็นมรดกโลกที่คนทั่วโลกชื่นชม ทั้งด้านความงดงามและประวัติศาสตร์
หากมีโอกาสก็แนะนำให้ไปชมนะครับ ช่วงหลังนี้พระบรมธาตุเจดีย์งดงามมากจริง ๆ

เมื่อปลอดจากเหลือบริ้นที่เกาะกินกระแสศรัทธา ความงดงามที่แท้จริงก็กระจ่างออกมา
คนเราหากปล่อยให้อคติบังตา ย่อมมองความเป็นจริงไม่เห็นนั่นแหละ

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

ว่าด้วยหนังสือ


วันนี้ได้ไปเดินร้านหนังสือ หาซื้อหนังสือสำหรับเรื่องเฉพาะทางเรื่องหนึ่ง ทำไมต้องไปเดินดูร้านหนังสือในห้างสรรพสินค้า? ทำไมร้านหนังสือไม่มาทำหน้าร้านของตัวเองไปเลย?

เป็นแค่คำถามลอย ๆ นะ เพราะคำตอบน่าจะเป็นในห้างสรรพสินค้า มีหลายสิ่งหลายอย่างทำให้มีคนหลากหลายเข้ามา จึงมีโอกาสมากกว่าออกไปตั้งร้านเฉพาะร้านหนังสือ แต่ถ้ามีสถานที่เฉพาะร้านหนังสือไปเลย หลาย ๆ ร้าน ก็น่าจะเป็นแหล่งที่จะดึงดูดคนไปได้นะ ทำยังไงให้คนที่คิดจะซื้อหนังสือ ต้องนึกถึงสถานทีอย่างที่ว่านี้เป็นแห่งแรก ถ้าทำได้ชีวิตคงมีความสุข

ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าในร้านหนังสือ 3 ร้าน เพื่อจะพบว่าหนังสือคอมพิวเตอร์ประเภทที่เขียนบนปกว่าขายดีที่สุด เป็นหนังสือที่เหมือนเอาเด็กมาเขียนเพื่อให้เด็กอ่าน หนังสือคอมพิวเตอร์เยอะจริง ๆ แต่ที่ดีหรือเหมาะสม ผมว่าน้อยถึงน้อยมากนะ สรุปว่าไม่ได้หนังสือเรื่องที่ต้องการ เดินมาอีกหน่อยหนังสือการใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นนั้นรุ่นนี้อย่างถึงแก่น ชีวิตการใช้โทรศัพท์มันต้องยากขนาดอ่านหนังสือเลยเหรอ?

ยังไงก็ไม่ได้หนังสือที่ต้องการละ เดินหาหนังสือที่อยากอ่านดีกว่า "คนไทยทิ้งแผ่นดิน" ไม่น่าเชื่อว่าทั้ง 3 ร้านไม่มีหนังสือเล่มนี้อีก สงสัยคงต้องไปหามือสองซะละมั้ง

เอาน่ะงั้นเดินหาวรรณกรรมไทยมาอ่านบ้าง เดินไปที่ชั้นหนังสือมองไปมองมาก็ไม่มีน่าสนใจ ลองเปิดอ่าน ๆ ก็ไม่เห็นจะมีอะไร นักเขียนใหม่ก็เยอะขึ้น นักเขียนเก่าก็เขียนน้อยลง แต่เห็นหนังสือของคุณนิ้วกลมอยู่หลายเล่มหลายเรื่องหลายปก ก็น่าสนใจนะแต่ยังไม่เคยอ่านของนักเขียนคนนี้เลย เอาไว้ก่อนละกัน หนังสือส่วนใหญ่เป็นนิยายหน้าปกรูปการ์ตูนสวย ๆ เยอะมาก จนลายตา แต่เป็นหนังสือที่อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจเลยข้ามไปก่อน

หนังสือแนะนำที่จัดวางไว้ก็ไม่น่าจะน่าสนใจหรือขายดีขนาดนั้น เลยไม่แน่ใจว่าที่แนะนำหนังสือที่ชั้นน่ะ จัดวางตามที่สายส่งให้ราคาดีรึเปล่า เดินไปเดินมาเมื่อยก็เมื่อยหิวก็หิว ก่อนออกจากร้านเลยซื้อเชอร์ล็อกโฮล์มส์ทั้งชุดแทน ยังไงก็เล็งไว้ว่าจะอ่านตั้งนานแล้ว เลยซื้อกลับมาเลยละกัน

สรุปว่าเวลา 2 ชั่วโมงกว่าที่ใช้ไปวันนี้ทำให้รู้จักโลกเพิ่มขึ้นอีกหน่อย
หนังสือที่เยอะมากเป็นหนังสือเรื่องของความสุขและศาสนา ซึ่งหมายความว่าคนเราปัจจุบันไม่มีความสุขกันเยอะ ทำให้หนังสือแบบนี้มีมากตามไปด้วย
แต่ไม่รู้ว่าที่ซื้อ ๆ กันไปน่ะ เอาไปอ่านรึเปล่า หรือ อ่านแล้วคิดรึเปล่า คิดแล้วก็ทำรึเปล่า หนังสือลักษณะนี้ถึงมากขั้นเรื่อย ๆ ที่ชั้นหนังสือ

ความสุขมันก็ไม่น่าจะหายากขนาดนั้นนะ คนเรานี่มองกันไกลตัวไปรึเปล่านะ 
ความสุขมันก็อยู่รอบ ๆ ตัวเราเองนี่แหละ
ว่าแล้วก็เตรียมตัวเข้าไปสู่โลกของโคนัน ดอยล์ดีกว่า

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

ต้นไม้ไม่เคยตายจริง ๆ หรอก


หายไปอีกพักใหญ่ ๆ ไม่ใช่ไม่มีเรื่องให้คิดให้เล่า แต่ไม่รู้เล่าออกมาในรูปแบบไหน ก็ถือโอกาสนี้เริ่มใหม่เลยละกัน

เดือนกว่า ๆ ที่ผ่านมาปลูกต้นไม้ไปหลายอย่าง ถั่วพลู ถั่วปี บวบเหลี่ยม ไผ่ มะกรูด ก็ปลูกตามรั้วกันไป ส่วนผักโขม ผักคะน้า ผักชี ก็ลองปลูกดู คราวนี้กันศัตรูพืชตัวฉกาจอย่างเจ้าสองมะ ด้วยการเอามาปลูกใส่กระถาง แล้ววางไว้ระเบียงหลังบ้านกันเลย
ถั่วพลู ถั่วปี บวบเหลี่ยม ผักโขม นี่ซื้อเมล็ดมาจากที่ชาวบ้านเขาเอามาขาย ปลูกแล้วก็ขึ้นไปตามระยะเวลาที่เหมาะสมกับมัน
ส่วนคะน้า กับผักชี นี่ซื้อเมล็ดที่ขายซองมา ใช้ไปบ้างแล้ว ที่เหลือเก็บมาเกือบปี พอเอามาปลูก คะน้ายังขึ้นอยู่ แต่ผักชีนี่ไม่ขึ้นซักต้น
คิดว่าน่าจะมีการเคลือบสารอะไรไว้นะ ไปซื้อมาใหม่ อ่านข้างซอง เป็นเมล็ดที่เก็บผลผลิตจากอเมริกา นี่เราต้องซื้อเมล็ดผักมาปลูกจากอเมริกาเหรอเนี่ย
เป็นความรู้ใหม่ที่ทำให้รู้สึกมึนไปพอสมควร ประเทศเกษตรกรรม ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์จากประเทศอุตสาหกรร
ซึ่งคงเป็นหนึ่งใหนเหตุผลที่ชาวสวนบ้านเราไม่สามารถต่อรองเรื่องราคาตลาดได้ นอกเหนือจากการรวมตัวกันไม่ติดแล้วนี่
ยังสงสัยอยู่ว่าแล้วผักชีใหม่ที่ปลูกแค่ 2 วันก็ขึ้นแล้วนี้จะเป็นเมล็ดพันธุ์ GMO ไหม? แค่นึกก็กังวลแล้ว

ทำไมบ้านเราไม่ทำธนาคารเมล็ดพันธุ์บ้างนะ จะได้เก็บพันธุ์แท้บ้านเราไว้บ้าง ผมอยากปลูกต้นไม้พันธุ์พื้นเมืองเดิม ๆ นะ แต่กิ่งหรือเมล็ดหายากจัง คิดว่าคงมีการสูญพันธุ์ไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีใครจดบันทึกไว้
พูดถึงเรื่องธนาคารเมล็ดพันธุ์ ผมเก็บไว้หลายชนิดใส่ขวดใส่ตู้เย็นไว้ ใครอยากได้ก็บอกนะแจกฟรี ช่วย ๆ กันปลูกต้นไม้ มองดูมันเติบโตกันบ้าง

ผมชอบต้นไม้ ชอบกล้วยไม้ เพราะพวกมันเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผมรู้สึกว่าขนาดต้นไม้ยังไม่เคยยอมแพ้ พยายามจะมีชีวิตอยู่ แล้วคนเราจะท้อแท้อะไรมากมาย จะเอาอะไรกับชีวิต
ต้นไม้ กล้วยไม้หลายอย่างก็อยู่เหมือนจะตายตั้งนาน เพื่อรอเวลาฝนตก แล้วจะงอกงามขึ้นใหม่ บางอย่างทิ้งใบทั้งหมดเพื่อออกดอกสวย ๆ หรือออกผลเพื่อสืบทอด
คิด ๆ ดู พืชนี่มันเคยตายจริง ๆ รึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะมันก็มีเมล็ดพันธุ์ ออกมาเติบโต แทนตัวมันอยู่เสมอ

นี่ก็ลองปลูกใหม่อีก ซื้อเมล่อนญี่ปุ่นมากิน แล้วก็เอาเมล็ดมาปลูก ก็งอกขึ้นมาใหม่ได้อีกนะ แล้วการเกิดใหม่นี่ก็สวยงามจริง ๆ

การปลูกต้นไม้ หรือเลี้ยงกล้วยไม้ด้วยตัวเอง ก็เป็นการฝึกจิตใจ ฝึกสมาธิ ฝึกความอดทนได้ แล้วยังเป็นกำลังใจและแรงบันดาลใจให้กับผมได้อีกด้วย

ปลูกด้วยตัวเอง ใส่ใจ ดูแล และ เฝ้ามอง  อย่าเพียงต้องการครอบครอง และคอยมองดูมันค่อย ๆ ตายไป
การปลูกต้นไม้ หรือเลี้ยงกล้วยไม้น่ะ ไม่ได้ใช้แค่มือและความรู้ แต่ต้องใช้ใจด้วย

ใจเป็นสุข ทุกอย่างก็เย็น