วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หนึ่งเดือนที่ผ่านมา เพื่อน.. คนรู้จัก.. คนที่เดินผ่านกัน..

ไม่ได้เขียนอะไรซะนาน เรื่องราวต่าง ๆ ในหัวก็เยอะแยะ อาจทำให้เก็บมาคิดมากเกินไปได้ เอาออกมาซะบ้างนะ
เดือนนี้ผ่านเรื่องราวหลายอย่างทั้งดีและไม่ดีนะ ได้พบเพื่อใหม่ ๆ สถานที่ใหม่ ๆ ได้นั่งดูฟุตบอลโลก ได้เล่นเกมใหม่ ๆ
เลยไม่ได้เขียนอะไรเลย ลองเอาออกจากหัวมาเล่าสู่กันฟังละกันนะครับ
เอาเรื่องดี ๆ ก่อนนะ พวกคุณอาจจะไม่เชื่อ ว่าผมโชคดีได้ LCD TV 32 นิ้ว จากการเล่นเกมในอินเตอร์เน็ต!
ไม่ต้องงง ได้มาแล้ว โดยไม่ได้ตั้งใจด้วย เพราะการเล่นเกมของผม หากไม่แข่งกับตัวเกมเอง ก็แข่งกับตัวเอง หรือแข่งกับเพื่อน
แล้วก็ไม่เคยเก็บมาเครียด หรือเป็นอารมณ์กับมันนะ เกมนี้ก็เหมือนกัน ก็เล่นแข่งกับเพื่อ เพราะคะแนนไม่ได้นำเหมือนคนอื่นเขา
แต่คนที่นำอยู่โดนตัดสิทธิ์ เพราะเล่นผิดกติกา เลยได้รางวัลมา ก็แปลกใจนะ แต่ถือว่าเป็นโชคดีละกัน
ส่วนเรื่องไม่ดีก็คือมีคนพยายามร้องเรียนว่าผมทำผิดกติกา ถึงขนาดเอาข้อมูลส่วนตัวผมไปโพสต์บนอินเตอร์เน็ต
ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรนะ นอกจากบอกให้เขาเอาข้อมูลผมออก แต่ผมไม่สละสิทธิ์นะเพราะคิดว่าผมไม่ได้ผิดอะไร
จนวันเข้าไปรับรางวัลถึงรู้ว่า คนหรือกลุ่มคนที่ร้องเรียนเรื่องผมนะ เป็นกลุ่มที่ได้รางวัลรองจากผม เจตนาชัดเจนกันมาก
เพราะเล่นกันเป้นกลุ่ม ได้รางวัลทั้งกลุ่ม เพราะพยายามผิดกติกา จึงคิดว่าคนอื่นต้องทำผิดเหมือนตนด้วย
น่าเศร้าใจกับบ้านเรานะ เพราะยังงี้ละมั่ง บ้านเราถึงไม่เจริญดี ๆ กันซะที เพราะคนบ้านเรา พยายามที่จะจับผิด โดยตัวเองทำผิด และเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง
พยายามใส่ความผู้อื่น เพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้อง โดยไม่มองถึงความถูกต้อง
อายุไม่ได้เป็นเพียงจำนวนปีที่เราได้อยู่ในโลกใบนี้นะครับ มันหมายถึงสิ่งที่เราเรียนรู้ตลอดมา และสิ่งที่เราจะสอนไปสู่คนรุ่นต่อไปด้วย
เรื่องดี ๆ อีกเรื่องคือเดือนนี้ได้ไปปลูกป่าชายเลนที่สมุทรสงคราม กับเพื่อนในเว็บ Play3Thai.com ก็ได้ทั้งความสนุกความสุขใจ และได้รู้จักคนใหม่ ๆ เพื่อนใหม่ ๆ
เป็นประสบการณ์ที่ดีนะครับ หากในหนึ่งปีรู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ดี ๆ เพิ่มซักคนนึงก็คุ้มแล้ว
พอปลูกป่าเสร็จ พวกจาก P3T ก็ไปเที่ยวหัวหินกันต่อ ผมกับเพื่อนก็กลับกรุงเทพฯ ก่อนกลับพี่เอก็ชวนไปไหว้พระที่ค่ายบางกุ้ง Unseen Thailand ที่โบสถ์มีต้นโพปรกทั้งโบสถ์น่ะ
แล้วก็ไปต่ออัมพวา ทั้งที่ฝนตก ๆ นั่นแหละ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ กินกันอ้วนเลย อัมพวาตอนนี้มีของกินกับงานศิลป์ แล้วก้เริ่มมีร้านเหล้าซะแล้ว
ถ้าอัมพวาพัฒนาไปมากกว่านี้ เสน่ห์ของอัมพวาอาจจะหายไปก็ได้นะ

ส่วนช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงอารมณ์ที่ต้องเรียกว่าอึมครึมนิดหน่อย เพราะงานเยอะละมั่ง
แต่คงไม่เป็นไรหรอก เพราะเดี๋ยวฝนตก ฟ้าก็ใสแล้ว บางทีดีกว่านั่น อาจได้เห็นรุ้งด้วยนะ..

ถ้าต้องโกหก เพื่อความก้าวหน้า
ขอพูดความจริง แล้วเดินไปช้า ๆ ดีกว่า
ถ้าคบกันนับถือกัน แต่ไม่ให้ความจริงใจให้กัน
ขอเป็นเพียงคนรู้จัก ไม่ต้องเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกันดีกว่า
ถ้ารู้จักกัน แต่ยังโกหก หักหลังกัน
ขอเป็นเพียงคนที่เดินผ่านกันดีกว่า


ขอบคุณรูปจากคุณนาย (ninewit) play3thai.com

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แปลกแยก...

เคยรู้สึกว่า เราไม่ใช่คนของที่นี่ ทั้งที่เราอยู่ที่นั่นมานานแล้วไหม?
ตอนนี้ผมรู้สึกประมาณอย่างนั้น จะนั่งอยู่ตรงไหน ๆ ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ที่ของเราเลย ทั้งที่เคยนั่งมาตลอด
จะรู้สึกดีขึ้นก็ตอนที่มานั่งคนเดียวนี่แหละ ใครรู้บ้างว่าเป็นเพราะอะไร...
เพราะเรารู้จักตัวเองมากขึ้น จึงทำให้ต้องหาหนทางใหม่ ๆ วิธีการใหม่ ๆ
เพราะเรารู้จักสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ดีขึ้น จึงรู้สึกชินชากับสิ่งแวดล้อม
เพราะเรารู้จักด้านอื่น ๆ ของคนรอบข้างมากขึ้น จึงรู้สึกว่าเกิดความแตกต่าง

นี่เป็นความรู้สึกที่แปลกแยกใช่ไหม? จะมีผลกับชีวิตไหม? จะมีผลกับการใช้ชีวิตไหม?
ผมเองมีความรู้สึกแบบนี้นาน ๆ ครั้ง แต่ช่วงหลัง ๆนี่ รู้สึกว่าจะเป็นบ่อย...
น่าจะเป็นเพราะหาคำตอบให้กับคำถามต่าง ๆ ในหัวตัวเองไม่ได้ หรือได้ก็ไม่ดีละมั้ง
พยายามทำความเข้าใจในตัวคนอื่น ก็ยังเข้าใจได้ยากอยู่ดี..
ที่ ๆ สบายใจที่สุด คือบ้านของตัวเอง
คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด คือคนที่บ้าน
อยู่ด้วยกัน ถึงไม่ได้นั่งคุยกัน ก็รู้สึกว่าไม่อยู่โดดเดี่ยว
ดีนะที่เข้าใจสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น แล้วไม่เก็บความรู้สึกแบบนี้ไว้นาน...
ไม่งั้นอาจเป็นโรคซึมเศร้าได้...
พยายามมองทุกอย่างเข้าไปข้างใน เพื่อทำความเข้าใจถึงความเป็นไปของพวกมัน...
ถ้าเข้าใจทั้งหมด คงไม่มีอาการแบบนี้ แต่ตอนนี้ยังเข้าใจไม่หมดเลยนะ..

วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ถนนยิ่งกว้าง น้ำใจยิ่งน้อยลง [หยุดเถอะขยายถนน เขาใหญ่]

วันนี้ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกไม่สดชื่น เหนื่อย ๆ เพลีย ๆ
ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เพราะอากาศ เพราะบรรยากาศ เพราะ.... ฯลฯ ตอบไม่ได้

เห็นข่าวขยายถนนขึ้นเขาใหญ่ แล้วรู้สึกสลดหดหู่อีกแล้ว เมื่อขยายถนน ย่อมต้องมีการตัดไม้ข้างทาง แล้วบังเอิญเหลือเกิน ที่ไม้ข้างทางช่วงที่ขยายถนน เป็นไม้อายุเป็นร้อยปี

มนุษย์มีสิทธิอะไรในการตัดต้นไม้อายุเยอะ ๆ พวกนี้ บ้านเมืองเรายังมีถนนไม่พออีกเหรอ ทำไมต้องเพิ่มถนน เพื่อให้รถเดินทางสบายขึ้น
เหมือนที่เคยเขียนไว้ ยิ่งถนนใหญ่ขึ้น น้ำใจยิ่งน้อยลง

ลองคิดดูนะว่า ถนนสองเลน สัตว์และแมลงต่าง ๆ ที่ต้องข้ามถนนก็ลำบาก มีชีวิตกี่ชีวิตแล้วที่ต้องจากไป เพราะถนนเพียงสองเลน

สัตว์พวกนี้เดินทางตามปกติใช่ไหม? ถนนที่สร้างขึ้นทีหลังขวางทางเดินตามปกติของพวกเขาใช่ไหม? แล้วถ้าถนนเพิ่มเป็นสี่เลน หมายความว่าระยะความเสี่ยงของสัตว์เหล่านนั้น ก็จะเพิ่มขึ้นใช่ไหม? เพิ่มอีกสองเลน หมายความว่าต้องตายเพิ่มขึ้นสองเท่าใช่ไหม?
ไม่หรอก เพราะอัตราการตายจะเพิ่มเป็นแบบยกกำลัง... ต้องสังเวยต้นไม้ พันธ์พืช สัตว์ และแมลงอีกเท่าไหร่ มนุษย์ถึงจะพอ...
ไม่พูดถึงเรื่องการเป็นมรดกโลกนะ พูดแค่เรื่องมรดกให้ลูกหลานของพวกเรา
มรดกโลก เป็นเรื่องสมมุติที่สร้างขึ้นเพื่อร้องขอค่าใช้จ่ายจากองค์กรภายใน หากไม่มีการสนับสนุนจากภายนอก พวกเราจะรักษาไว้ไม่ได้ใช่ไหม?

เพราะเมื่อก่อนนี้ ผมเดินทางไปเขาใหญ่บ่อย ๆ หลาย ๆ ที่ในเขาใหญ่ ประทับใจผมเสมอ จนอาจรู้สึกกังวลว่า ถ้าไปครั้งนี้จะเจอความเปลี่ยนแปลงอะไรไปจนเกินพอดีหรือไม่

ผมเคยขับรถเจอช้างป่าเดินข้ามถนนในเขาใหญ่ เที่ยวน้ำตกเหวนรก เหวสุวัต แล้วก็อีกหลาย ๆ ที่ เคยไปเที่ยวเขาใหญ่ ตั้งแต่ยังไม่มีจังหวัดสระแก้ว...
พอเห็นข่าวการตัดไม้ เพื่อขยายถนน จึงมีความรู้สึกหดหู่ ขึ้นมาเพราะความผูกพันตั้งแต่ครั้งก่อน

ตัวผมเองก็พยายามที่จะเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับสิ่งอื่น ๆ โดยให้เกิดการทำลายน้อยที่สุด
มนุษย์ไม่เคยเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันกับสิ่งอื่น... โดยไม่มีการทำลายเกิดขึ้น
หากต้องการอนุรักษ์ธรรมชาติทั้งหลาย ไม่ใช่เริ่มที่การปลูกต้นไม้ แต่ต้องเริ่มจากการปลูกจิตสำนึกให้กับมนุษย์ก่อน

คงเป็นไปไม่ได้แล้วในรุ่นปัจจุบัน แต่ในอนาคตคงสามารถปลูกจิตสำนึก ให้กับลูกหลานของเราได้
โลกในอนาคตคงจะดีขึ้น ถ้าคนรุ่นนี้ไม่ทำลายไปหมดเสียก่อน
ตอนนี้ก็ได้เพียงปลูกต้นไม้ สร้างจิตสำนึกให้หลาน ๆ และมีความหวังให้กับอนาคต...

หากเห็นว่าการเดินทางด้วยรถยนต์สำคัญกว่าต้นไม้ จนต้องขยายถนนเพื่อความสะดวกสบาย
จะมีอุทยานไว้ทำไม เมื่อคุณต้องการอนุรักษ์ธรรมชาติ ย่อมต้องเข้าใจว่าเมื่อคุณอยากเข้าชมความงาม ความสะดวกสบาย ไม่ใช่อันดับหนึ่ง พวกคุณอยากชื่นชมความงามของธรรมชาติ หรือชื่นชมถนนสี่เลนกัน

หยุดเสียเถอะขยายถนน อุทยานเขาใหญ่ ใครที่ทำช่วยคิดหน่อยนะ ถ้าเจอจะไม่ไหว้ให้เสียมือเลย...
โธ่ ไอ้มนุษย์!!!
รักษ์เขาใหญ่ รักษ์โลก
 
ขอบคุณภาพจาก กระดานเสวนาชมรมอนุรักษ์ http://student.sut.ac.th/anurukclub/