วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ลมหนาวพัดมา.. ความทรงจำเลือน ๆ ก็แจ่มใสอีกครั้ง..

"ตาก็นั่งเล่นว่าวอยู่นั่นแหละ แล้วเด็กคนนึงก็เดินมาขอว่าวที่ตาเล่น ตาก็ไม่ให้ เด็กคนนั้นก็เดินไปตามพ่อเขา พ่อเขาก็มาขอว่าวให้ลูกเขาเล่น พอตาไม่ให้ พ่อเขาก็ว่าไปกันเถอะลูก ก็เขาไม่ให้นี่"
"แล้วเขาเดินจากไป พ่อของตาจึงค่อยเดินมาบอกว่า พ่อของเด็กคนนั้น คือพระพุทธเจ้าหลวง"
เรื่องเล่าเรื่องหนึ่งของตา ถ่ายทอดมาสู่แม่ แล้วก็มาสู่ลูก ๆ เกี่ยวกับประสบการณ์การพบกับรัชกาลที่ 5 เนื่องในเดือนที่อยู่ในวันปิยะมหาราช
หากพระองค์ไม่ตราพระราชบัญญัติทาสรัตนโกสินศก 124 บ้านเมืองเราคงไม่เจริญยังทุกวันนี้

ตายังคงวนเวียนเล่นว่าวแข่งขันอยู่เสมอ คำสอนเกี่ยวกับการเล่นต่าง ๆ ก็รับมาบ้าง แต่ไม่หมด ส่วนที่เหลือรับไว้ได้ก็มีมีดเล่มโปรดของตา กับโครงว่าวจุฬาตัวเก่ง...
ตาจากไปยี่สิบปีพอดี ในเดือนที่แล้ว.. แล้วความทรงจำก็กลับมาย้ำเตือน เมื่อไปเยือนบ้านคุณป้าที่ขึ้นบ้านใหม่ ที่อวดฝีมือว่าวจุฬาของตา ที่มอบให้นานแล้ว...
ความทรงจำนี่มันก็แปลก บางอย่างที่เลือน ๆ ไปแล้ว อยู่ ๆ ก็กลับมาแจ่มใสอีกครั้ง

ภาพของตาใส่แว่นนุ่งโสร่ง ไม่ใส่เสื้อ นั่งเหลาไม้ไผ่ ทำว่าว, ภาพการถูบ้านพื้นไม้ โดยใช้ผ้าชุบน้ำเปียก ๆ เช็ด แล้วปล่อยให้น้ำไหลลงตามร่องแผ่นไม้พื้น, ภาพตาตั้งไม้ไผ่ติดรอก เพื่อส่งว่าว, ภาพการก่อไฟเรียกลมเพื่อส่งว่าว... ป่านนี้ตาคงสุขสบายแล้วอยู่ที่ไหนซักแห่งนะ..

ช่วงนี้เหมือนว่าจะมีลมหนาวเข้ามาเร็วกว่าปกติ ฝนก็ตกยาวนาน เขาว่าเป็นเพราะปรากฎการณ์เอลนิญญ่า เห็นข่าวกรมอุตุ ว่าปีนี้จะหนาวมากกว่าปีก่อน เขาว่ากรุงเทพฯ จะมีอุณหภูมิ 16 องศาเซลเซียส ต่ำว่าปีที่แล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าไปวัดอุณหภูมิที่ไหนในกรุงเทพฯ ที่บ้านผมปีที่แล้วก็ 16 องศา ในตัวบ้าน นอกบ้านก็ลงไปเกือบ ๆ 15 องศา หนาวแทบแย่
บังเอิญว่าบ้านผมอยู่ในกรุงเทพฯ บังเอิญว่าบ้านผมเป็นสวน บังเอิญว่าต้นไม้มันเยอะ อากาศเลยดี ร้อนก็ไม่มาก ฝุ่นก็น้อย ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่ความบังเอิญหรอก
สวนก็ทำมาแต่ตายาย บ้านก็ตั้งใจปลูกให้เป็นแบบประหยัดพลังงาน ต้นไม้ก็ตั้งใจปลูกให้มันเยอะ ๆ ทุกอย่างเกิดจากความตั้งใจ
ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยก็เจอกับลักษณะอากาศแปลปรวน เกิดภัยธรรมชาติมากมาย  ฝนตกหนัก น้ำท่วม แผ่นดินไหว ไฟป่า ... อย่าโทษโน่น โทษนี่กันเลย
มันเกิดขึ้นเพราะมนุษย์เองนั่นแหละ เป็นคนทำ ตัดไม้ ย้ายลำน้ำ ค้ำแผ่นดิน... แล้วยังไปโทษอย่างอื่นอีก เพราะมนุษย์ทั้งนั้น... ตัวถ่วงของโลกนี่..
ทำไมไม่รู้จักที่จะอยู่ร่วมกันบ้างนะ เบียดเบียนโลกใบนี้ให้น้อยที่สุด โลกก็คงไม่ตอบโต้พวกเราแรงขนาดนี้ เปลี่ยนกันได้แล้วมั่ง เริ่มจากตัวเองก่อน แล้วขยายไปสู่คนในครอบครัว เพื่อน ๆ แล้วก้คนรอบข้าง
การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเริ่มที่จุด ๆ เดียวเสมอ... ถึงจะไม่ดีขึ้นในรุ่นของเรา ความหวังก็ต้องยังคงอยู่ว่าจะดีขึ้นในรุ่นลูกรุ่นหลาน มีความหวังแล้วเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองกันได้แล้ว

เจอลมหนาวทีไร นึกถึงตาทุกที เล่นว่าว เล่านิทาน นั่งหน้ากองไฟ เผามัน ชีวิตมีความสุข เรียบง่าย แล้วก็ไม่เบียดเบียนธรรมชาติมากเกินไป
พอลมหนาวมา ตามักจะร้องเพลงแซวลุงที่อยู่ใกล้ ๆ กัน
"ลมหนาวพัดมาอีกแล้ว ใครมีเมียสาวก็คงสุขแท้ ใครมีเมียแก่คงต้องขาดทุน ขาดทุน..."
ลองมีความสุขอย่างเรียบง่าย และจริงแท้ กันบ้างดีไหม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น