วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ขนาดโคลัมบัสยังโดน นับประสาอะไร....

ช่วงนี้กำลังอ่าน "กุศโลบายสร้างความยิ่งใหญ่" ของพลตรีหลวงวิจิตรวาทการอยู่
ก็เช่นเคย เนื่องจากเป็นหนังสือที่เขียนมานานแล้ว ภาษาที่ใช้จึงไม่คุ้น ทำให้ผมต้องใช้เวลาในการอ่านมากซักหน่อย
แต่ก็ยังคงเป็นหนังสือที่ให้ความรู้ได้เหมือนเดิม อย่างที่ผมเคยบอกไว้ หนังสือดีคือหนังสือที่เราอ่าน อ่านแล้วคิด คิดแล้วเข้าใจ
ที่อ่านไม่ได้อยากอ่านเพื่อจะสร้างกุศโลบายอะไร เพื่อให้ตัวผมยิ่งใหญ่ เพราะไม่เคยอยากยิ่งใหญ่ ไม่เคยทะเยอทะยาน
แต่ที่อ่านก็เพื่อทำความเข้าใจ และหาความรู้จากคนรุ่นก่อน ผมศึกษาอดีต เพื่อเข้าใจปัจจุบัน แล้วก็วางแผนในอนาคต..

การได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็ได้เข้าใจความคิดและความรู้ต่าง ๆ เยอะขึ้นนะ ยกตัวอย่างเรื่องอเมริกา โคลัมบัสเป็นคนค้นพบทวีปนี้ แต่ทำไมทวีปนี้ไม่ได้ชื่อว่า โคลัมบัส
นั่นเพราะ โคลัมบัส เป็นผู้ค้นพบก็จริง แต่ไม่ได้ประกาศออกไป เลยถูกคนอย่างนายอเมริโก เวสปุจจี เอาไปประกาศซะ ว่าเป็นผู้ค้นพบ แล้วก็ตั้งชื่อว่าอเมริกา
หลังจากนั้นอีกตั้งนาน กว่าโลกจะยอมรับว่า ทวีปอเมริกา ถูกค้นพบโดยโคลัมบัส ไม่ใช่ อเมริโก...
รู้สึกยังไงครับ ทวีปอเมริกา ถูกค้นพบมาสองร้อยกว่าปีแล้ว กระทั่งปัจจุบัน คนเราก็ยังคงมีคนนิสัยอย่างนายอเมริโกอยู่ด้วยตลอดมา

ก็ดีนะ เพราะเวลาที่เจอกับอาการคล้าย ๆ แบบนี้ เวลาที่เราทำอะไร แล้วโดนคนอื่นเอาไปใช้ เอาไปอ้าง ก็คิดเพิ่มได้อีกนะ ว่า ขนาดโคลัมบัส ยังโดนเลย นับประสาอะไร...

เมื่อก่อนวันอาฬาหบูชา ไปทำบุญที่วัด ที่ผมเคยบวช เจ้าอาวาสบ้านผมเคารพนับถือกัน เพิ่งจะมรณภาพ ก่อนหน้านั้นก็เคยมีการแจกบัตรสนเท่ห์ จนหลวงพี่ที่คอยดูแลวัดมาตลอดเป็นสิบปี
ช่วยอดีตเจ้าอาวาสพัฒนาวัด จนเป็นแหล่งเรียนรู้ทางพุทธศาสนาดี ๆ ต้องลาสิกขาออกไป ตั้งแต่ตอนนั้นศรัทธาที่อยู่กับวัดนี้ ก็เริ่มสั่นคลอนละ พอเจ้าอาวาสมรณภาพ การประกาศแต่งตั้งเจ้าอาวาสองค์ใหม่
ก็เป็นพระที่ชาวบ้านว่ากันว่าเป็นองค์ที่เขียนบัตรสนเท่ห์ เพิ่งเข้ามาจำวัดได้ไม่กี่ปี ก็เป็นเจ้าอาวาสแล้ว หลวงน้า หลวงตา หลวงพี่ เก่า ๆ ที่ดูแลวัดมาตลอด ไม่ได้แต่งตั้ง แต่ไม่ได้ขัดขวางอะไร
ลองถามหลวงน้าดู ท่านตอบมาดีมาก "เขาอยากเป็น ก็ให้เขาเป็นไป เราอยู่อย่างบริสุทธิ์อย่างนี้ดีแล้ว" เป็นคำตอบที่ชัดเจนมาก เพราะหากพระยังหลงอยู่ใน ลาภ ยศ สรรเสริญ ก็แสดงว่ายังไม่เข้าใจคำสั่งสอน
ของพระพุทธเจ้า ทุกสิ่ง ทุกอย่าง เป็นสิ่งไม่แน่นอน ไม่มีอะไรเป็นของเราจริง ๆ แม้แต่ตัวเราเองนะ ทำไมจึงต้องขวนขวาย แสวงหาขนาดนั้น
วันนั้นที่ไปทำบุญมีคนมาทำบุญประมาณสิบครอบครัว น้อยที่สุดตั้งแต่ผมมาทำบุญที่วัดนี้ทั้งที่เป็นวันหยุด วันอาทิตย์ อาจเป็นเพราะช่วงวันหยุดยาวเข้าพรรษา หรืออาจเป็นเพราะศรัทธาลงลงก็ได้
ศรัทธาในวัดลดลง แต่ศรัทธาในพุทธศาสนา ยังคงเดิม บ้านผมเลยตกลงว่าจะมาทำบุญที่วัดใกล้บ้านหน่อย เดินไปได้ โดยปกติ ก้ไปทำบุญที่วัดนี้บ้าง แต่ไม่บ่อยนัก แต่หลังจากนี้คงเป็นวัดทำบุญหลักละ
ก็สะดวกดี วัดที่ทำบุญบ่อย ๆ ห่างบ้านไปประมาณ กิโลกว่า ๆ แต่วัดใกล้บ้านนี่ แค่สามร้อยเมตร.. สะดวกสำหรับแม่ด้วย วัดพระที่ไม่ตรงวัดหยุด จะได้ไปทำบุญสะดวกขึ้น
แต่โดยปกติ ที่ตักบาตรทุกเช้า ก็ตักบาตรกับวัดนี้นะ ดังนั้นก็เหมือนทำบุญที่เดิม เพิ่มขึ้นนั่นเอง..
พอวันอาฬาหบูชา ก็มาทำบุญที่วัดนี้กัน คนเยอะมากกว่าทุกครั้งที่เคยมาทำบุญ.. ด้วยความที่ไม่คุ้นเคย ก็ทำอะไรที่ผิดพลาดไปบ้าง ไว้ปรับปรุงในคราวหน้าละกันนะ

สิ่งต่าง ๆ ย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไป ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความรู้ ความเข้าใจ ในช่วงเวลาที่ผ่านไป
แม้ความคิด ความเชื่อก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพียงแต่คนเราจะเปลี่ยนแปลงไปทางดีขึ้นหรือเลวลงก็เท่านั้น

เอาไว้อ่าน "กุศโลบายสร้างความยิ่งใหญ่" จบแล้ว จะมาเล่าให้ฟัง
อาจจะทำให้ผมมองโลกได้กว้างขึ้น อาจจะทำให้ผมเข้าเข้ามนุษย์มากขึ้น อาจจะทำให้ผมมีความคิดดี ๆ เพิ่มขึ้น
แล้วมาลองดูกันว่าจะพัฒนาความคิดของเราได้ไหม?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น