วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โลกนี้มันมีไว้ให้เรียนรู้นะ

อันเนื่องมาจากที่ได้มีโอกาสไปงานแต่งงานของเพื่อนที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ถึงชื่ออำเภอจะระกำ แต่คนก็ยังรักกันนะ เนี่ยเพื่อนแต่งแล้วว่าจะชวนมาจดทะเบียนสมรสกันที่บ้านผม บางพลัด...
แต่งงานที่บางระกำ จดทะเบียนสมรสที่บางพลัด ... สุดยอดจริง ๆ

ไม่เคยมีโอกาสเข้าร่วมงานแต่งงานของคนที่นี่เลย ก็น่ารักไปอีกแบบ
เพราะว่างานแต่งงานเลี้ยงแต่เช้า เลยต้องเดินทางตั้งแต่เย็นวันศุกร์
เดินทางด้วยรถยนต์ของเพื่อน ฝ่าฝูงรถติด ท่ามกลางฝนตก ในช่วงเย็นวันศุกร์ ของกรุงเทพฯ... นรกชัด ๆ ผมไม่รู้ว่าพวกเรา ๆ ทนรถติดในกรุงเทพฯได้ยังไงกันนะ คงต้องมีเหตุผลดี ๆ บางละนะ
ส่วนตัวผม เพราะเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด พบกับสภาพการจราจรแบบนี้มานานแล้ว เลยเลือกใช้มอเตอร์ไซค์ครับ... ไม่มีปัญหา

เริ่มเดินทางทุ่มนึง กว่าจะออกจากกรุงเทพฯ ได้ก็เกือบสามทุ่ม ไปถึงที่พักก่อนเข้าตัวเมืองพิษณุโลก แยกเข้าบางระกำ เกือบตีหนึ่ง ไม่ได้นอนดึกมานานแล้ว เลยง่วงไม่ได้ไปนั่งคุยทักทายกับเพื่อน ๆ เลย อาบน้ำเสร็จก็หลับ นอนดึก แต่ตื่นตีห้า ตามปกติ
ปรากฎว่าฝนตก.. เลยโทรถามเจ้าบ่าวว่า ให้ใครปักตะไคร้ เจ้าบ่าวได้แต่หัวเราะ แล้วบอกนอนไม่หลับเลย เครียด ก็คนกำลังจะเข้าพิธีนี่นะ
หลังจากช่วงเช้า จับปูใส่กระด้งกันเรียบร้อยก็เกือบแปดโมง เดินทางไปบ้านเจ้าสาว
เพราะฝนตก เพราะทางเดินเป็นดิน เพราะดินโดนฝน เพราะหลาย ๆ คนใส่กางเกงขายาวไปร่วมงาน
จึงเป็นงานแต่งที่ขบวนขันหมากมีแต่คนพับขากางเกง ก็ฮากันไปนะ

ที่นี่ เขาแห่สองครั้ง แห่ขันหมากก่อน แล้วแห่เจ้าบ่าวอีกรอบนะ ไอ้คนโห่ ตั้งแต่ขบวนขันหมากเลยต้องโห่ซะสองรอบ เจ็บคอกันไปเลย

ตอนเจ้าบ่าวจะขึ้นบ้าน ยังมีฝั่งเจ้าสาวมาถามด้วยนะว่าตัวจริงเหรอ เจ้าบ่าวน่ะ ถามน้อง ๆ แถวนั้น เขาเลยบอกว่าบางบ้านเขามีเจ้าบ่าวปลอม ๆ มาก่อนตัวจริงด้วยนะ
เป็นการเล่นกันอย่างหนึ่งน่ะ พอขึ้นบ้านก็จัดการหลั่งน้ำ ก็สมใจกันไป ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว
โชคดีของผมที่ได้ไปงานด้วย ได้รู้ประเพณีที่นี่ ส่วนที่ต่างไป เพราะมาจากหลาย ๆ แห่ง อย่าไปคิดนะว่า ที่คุณเคยเห็น เคยทำ มันจะถูกเสมอ

เรียนรู้ประเพณีของที่อื่นบ้าง จะได้เป็นการเปิดหู เปิดตา เปิดใจ ให้กว้างขึ้นนะ...

งานสนุก น่ารักดี แต่หงุดหงิดอยู่อย่างที่มีคนเอาปืนมายิงในงานอีกแล้ว ทำไมถึงคิดว่าในงานต่าง ๆ ต้องเอาปืนมายิงนะ
เป็นการแสดงว่าตัวมีอำนาจเหรอ มีพลังเหรอ.. แต่ขาดความรับผิดชอบอย่างยิ่งเลยนะ ลูกปืนที่ยิงขึ้นไป จะไปตกที่ไหนละ ใครจะไปโดนบ้างละ เป็นข่าวตั้งหลายครั้ง คนก็ยังไม่สำนึก ทำไมไม่เห็นแก่คนอื่น ๆ บ้างนะ คิดถึงแต่ตัวเองอย่างเดียวเลย ที่หนักกว่านั้น พอยิงเสร็จ เปลี่ยนแม็กกาซีน ยังไม่ทันล๊อกไก ก็ส่งให้อีกคนยิง ไอ้คนนี้ก็เอานิ้วเข้าแตะไกซะก่อนยกปืนขึ้นฟ้าซะอีก อันตรายมากเลยนะ

งานเขาเลี้ยงถึงเที่ยง เสร็จก็กลับมาเข้าเมืองพิษณุโลก แวะไหว้พระพุทธชินราช แวะกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา เลยรู้ว่าไม่ได้มานานมากแล้ว เพราะก๋วยเตี๋ยวห้อยขาที่อยู่หน้าวัดริมน้ำ ย้ายขึ้นบกมาหมดแล้วนะ เดินทางมานานหลายปี ย้อนกลับมาอีกทีก็เปลี่ยนไปหมด..
ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลานะ เป็นเรื่องปกติ
ขับ ๆ แวะ ๆ มาเรื่อย ๆ กว่าจะกลับถึงกรุงเทพฯ ก็สี่ทุ่มแล้วนะ

ขอบคุณเพื่อนมดที่ให้อาศัยรถไปด้วย ขอบคุณเพื่อนอาร์ที่แต่งงานซะที เลยได้ไปเห็นงานแต่งงานที่แตกต่างออกไป
ถ้าได้มีโอกาสไปที่ไหน ก็เรียนรู้ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่นไว้นะ สิ่งที่แปลกไป ไม่ใช่เรื่องที่จะไม่พอใจ แต่มันเป็นเรื่องที่ควรเรียนรู้ไว้

อย่าเอาความคิดตัวเองเป็นหลักไปซะหมด มันจะบดบังที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ นะครับ

1 ความคิดเห็น:

  1. ใช่ประเพณีแบบนี้ครั้งหนึงที่มีโอกาสได้สัมผัสและเรียนรู้ดีคับ.........

    ตอบลบ