วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

ความว่างเปล่ามันบอกว่าเท้าอยากออกเดินทางอีกแล้ว...

เพราะเป็นนักเดินทางมาตลอด ระยะทางที่เดินทางน่าจะเกินกว่า 40000 กิโลเมตร ไปแล้ว.. พูดได้ว่าคงเกินกว่าเส้นรอบวงของโลกเราไปแล้ว
เดินทางแทบไม่เคยหยุดนิ่ง.. ไปในหลากหลายสถานที่ ไปเที่ยวบ้าง ไปทำงานบ้าง ไปที่ซ้ำ ๆ บ้าง ไปที่ใหม่ ๆ บ้าง ประสบการณ์ที่ได้รับมีค่ามากมาย
ถึงแม้ว่าการเดินทางจะทำให้เกิดความเสียหายทางด้านการเงินมาเสมอ ๆ แต่ก็เทียบไม่ได้กับประสบการณ์ที่ผมได้รับ
โลกนี้คงมีคนจำนวนไม่มากนัก ที่จะมีประสบการณ์ในการเดินทางแบบผม ยิ่งในประเทศของเราคงยิ่งน้อยลงไปอีก

เพราะการที่ไม่เคยหยุดนิ่ง จึงเหมือนกว่าการเดินทางเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต.. ต้องการประสบการณ์ใหม่ ๆ พบเจอสิ่งใหม่ ๆ เป็นอาหารที่หล่อเลี้ยงจิตใจ ให้เต็มอิ่มอยู่ตลอดเวลา
และเพราะตัดสินใจแล้วว่าจะไม่พยายามเป็นนักเดินทางอีก... ลงหลักปักฐาน ตั้งหลักให้กับชีวิต เพื่อดูแลครอบครัวและคนที่ผมรัก.. จึงลดการออกเดินทางจนน้อยลงไปมาก

หลายวันมานี่ จากการที่ได้รับประสบการณ์ที่ค่อนข้างไม่ได้จากมนุษย์ทั่ว ๆ ไป ทั้งการเอาเปรียบ การเห็นแก่ตัว..
ทำให้รู้สึกแปลก ๆ โหวง ๆ ว่างเปล่า ขึ้นมาข้างใน ประทุขึ้นมาอีกครั้ง เป็นความรู้สึกที่บอกให้คนอื่นเข้าใจไม่ได้ แต่ตัวเองเข้าใจว่าเป็นความรู้สึกที่อยากออกเดินทางอีกครั้ง
ช่วงเวลาเกือบ 3 ปีหลังจากการลงหลักปักฐานที่ผ่านมา กับการเดินทางประมาณ 10 ครั้ง คงไม่เพียงพอที่จะช่วยเยียวยา อาการโหวง ๆ ว่างเปล่า นี้ได้..
ทุกครั้งที่เกิดอาการนี้ ถ้ามองหน้าคนที่เรารัก อาการที่ว่าก็มักจะเจือจางลง แต่สองวันมานี้รู้สึกว่าอาการจะค่อนข้างหนัก

ถ้าได้ออกเดินทางบ้างคงจะทำให้รู้สึกดีขึ้นละมั้ง..

คงต้องหาเวลาออกไปแสวงหาประสบการณ์ กับสถานที่ใหม่ ๆ กันบ้างแล้ว
เอาประสบการณ์ การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มาเยียวยารักษาอาการว่างเปล่า ที่เกิดขึ้นข้างในตัวผมอีกครั้ง
และคงต้องในเร็ว ๆ นี้แหละนะ แล้วจะเอาเรื่องราวใหม่ ๆ มาฝากกัน.
เมื่อก่อนเดินทางคนเดียวรูปภาพที่บันทึกไว้ส่วนใหญ่จึงมีรูปของตัวเองน้อยมาก แต่การเดินทางคร้งนี้จะเปลี่ยนไปละ..
คนเดียวหัวหาย (ไม่ค่อยมีรูป) สองคนเพื่อนตาย (ผลัดกันถ่ายรูปได้)

เพราะชีวิตมันสั้นนัก เปิดหู เปิดตา เปิดใจ เพื่อซึมซับเอาความรู้ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่จะได้จากการเดินทางกันเถอะนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น