วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

เงาม่าน

เมื่อวันก่อนอยู่บ้านนี้มาครบสองปีแล้ว ลงทุนลาพักร้อนมาเก็บกวาดเช็ดถูบ้าน... ซักผ้าม่าน มุ้งลวด...
บ้านดูสว่างขึ้นมามากเลยทีเดียว.. แล้วเป็นวันพระพอดี ตกกลางคืนก็สวดมนต์ไหว้พระตามปกติ จังหวะที่เปิดหน้าต่าง ก็เห็นภาพสวย ๆ
ครอบครัวนกเขาเกาะนอนกันอยู่บนกิ่งขนุน.. พ่อแม่อยู่ด้านนอก ลูกสองตัวอยู่ตรงกลาง.. ดูแล้วสวย น่ารักดี เลยถ่ายรูปซะหน่อย..
รู้อยู่ว่านกเขาเป็นนกที่รักเดียวใจเดียว แต่เพิ่งรู้ว่ามันดูแลลูกช่วงที่โตแล้วด้วย.. ดูเป็นตัวอย่างเอาไว้นะ ไอ้พวกมนุษย์ทั้งหลาย..
ที่มองเห็นครอบครัวนกเขานี่ ไม่ใช่ไม่เคยเปิดหน้าต่าง แต่เวลาเปิด เงาจากผ้าม่านมักจะปิดบังส่วนนี้ไป ทำให้ไม่เคยเห็น แต่วันนี้ผ้าม่านถอดไปซักทำให้มองเห็นได้
บางทีคนเราถ้าถอดสิ่งที่บังตาบังใจออกไปได้บ้าง คงจะมองเห็นสิ่งใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นนะ.

เมื่อวานจนถึงเมื่อคืนฝนตกตลอด อากาศดีมาก อย่างที่เคยบอกผมชอบฝนตก.. ช่วงเย็นจนมืดก็ไปช่วยแม่ทำน้ำพริกขนมจีน ที่แม่จะทำเฉพาะโอกาสพิเศษเท่านั้น
ครั้งนี้ก็พิเศษ เพราะคุณป้าที่เคารพนับถือกันมานาน ขอให้ทำให้ในงานขึ้นบ้านใหม่ แม่เลยต้องเกณฑ์ ลูก ๆ หลาน ๆ มาช่วยกันทำ ยังคงใช้ครกทำเครื่อง ไม่ใช่เครื่องปั่น.
ความอร่อยของน้ำพริกนั้นต่างไปจริง ๆ นะครับ แต่ไม่เหมาะกับการทำเป็นการค้านะ เพราะมันใช้เวลานานและละเอียดอ่อน ถ้าทำขายคงต้องราคาสูงกว่าที่อื่น ๆ
ในสังคมบ้านเราที่ชอบแต่ของถูกไม่สนใจเรื่องคุณภาพแล้ว อาจจะไม่มีลูกค้าก็ได้ แต่ศึกษาไว้ก่อน อีกหน่อยเผื่อเอามาทำเป็นอาชีพ ทางเลือก ของผมอีกอาชีพหนึ่ง
ว่ากันเรื่องของถูก ใคร ๆ ก็ชอบ ผมเองก็ชอบ แต่อย่างว่าแหละ คุณจะหาของถูกแล้วก็ดีจริง ๆ จากไหน
เวลาที่คนเราซื้ออะไร เปลี่ยนการตัดสินใจจากราคาถูก เป็นราคาเหมาะสมกับคุณภาพคงจะดีกว่านะ ผู้ผลิตก็มีกำลังใจที่จะทำของดี ๆ ออกมา
เหมือนที่บางคนบอก ที่ญี่ปุ่นของดีที่สุดจะขายในประเทศ ส่วนของดีรองลงมาจะส่งขายต่างประเทศ ตรงข้ามกับประเทศเรา ที่เอาของดีที่สุดส่งขายต่างประเทศ แล้วเอาของรอง ๆ ลงมาขายให้คนในประเทศ
อย่าโทษผู้ผลิตเลย เพราะค่านิยมผิด ๆ ที่สังคมเราปลูกฝัง น่าจะช่วยกันเปลี่ยนค่านิยมแย่ ๆ ในสังคมเรากันได้แล้ว

อย่างวันก่อนผมไปเดินซื้อแผ่นเพลง ได้มา 3 แผ่น เพื่อนไปด้วยกันเห็นผมซื้อก็ว่าไม่ใช่แนว.. ด้วยเคยพูดเรื่องลิขสิทธิ์กับเพื่อนไปหลายครั้งแล้ว ก็ได้แต่ยิ้ม ๆ จนถึงที่สุด การเปลี่ยนความคิดและค่านิยมในสังคมบ้านเราอาจต้องรอให้หมดไปซักสองช่วงอายุคนนะ กว่าจะถึงตอนนั้น เพื่อนบ้านเราคงก้าวข้ามเราไปหมดแล้ว เพราะสังคมบ้านเราปล่อยให้สิ่งผิด ๆ บังตาบังใจ โดยอ้างว่าคนอื่นเขาทำกัน.. ถ้าปลดสิ่งผิด ๆ ออกจากจิตใจกันบ้างก็ดี.

เมื่อคืนเจ้าสองมะ เห่าผิดปกติ ออกไปดูครั้งนึงได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์วิ่งไปอย่างเร็ว  แต่ไม่เห็นอะไร ออกมาดู สองสามครั้ง ทั้งคืน เช้ามา เจอเหตุการณ์รถที่จอด ก่อนถึงบ้านซักสิบเมตร โดนทุบเอาของในรถ ถึงไม่ได้จอดในบ้าน แต่จอดในซอยนะ ไม่ใช่ถนนใหญ่ ไม่ใช่ทางผ่าน โจรมันจะเอามันยังกล้า.. ไม่รู้จะพูดยังไง กับพวกขโมยนี่ เลวจริง ๆ สงสารแต่พี่เขา สงสัยว่าคราวนี้เวลาเจ้าสองมะเห่ากลางคืนต้องดูให้ทั่วถึงหน่อยแล้ว..

ถ้าว่าง ๆ ก็ลองปลดผ้าม่านที่บังตาบังใจของตัวเองออกบ้างนะ อาจะได้เห็นครอบครัวนกเขาน่ารัก ๆ แล้วก็ความจริงและสิ่งงดงามต่าง ๆ เพิ่มขึ้น..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น