วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554

อายหมานะ

ทุก ๆ เช้า ช่วงนี้ที่ฝนไม่ตก ไปนั่งอ่านหนังสือแถวท่าน้ำสี่พระยา.. ลมเย็น อากาศดี วิวสวย..เหมาะแก่การนั่งอ่านหนังสือจบกาแฟมาก
มีหนังสือที่ไม่คิดว่าจะเป็นหนังสือมาให้อ่าน น่าสนใจในแนวความคิด ตอนนี้อ่านจบแล้ว แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะ
หลาย ๆ คนมักจะบ่นว่าไม่มีเวลา แต่คนเราทุก ๆ คนก็มีเวลา 24 ชั่วโมงต่อวันเหมือนกันนะ.. แล้วทำไมถึงบอกว่าไม่มีเวลาหว่า..
ในช่วงที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีเวลา อาจเป็นเพราะเราไม่ได้จัดลำดับความสำคัญในการทำสิ่งต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ ละมั้ง..
ทำให้เอาเวลาส่วนนั้น ส่วนนี้ มาปะปนกันไปหมด ทำให้รู้สึกว่าเวลาที่จะทำเรื่องต่าง ๆ ให้ครบถ้วน มีไม่เพียงพอ
แล้วเวลาก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนเราซะด้วย มันเป็นเรื่องของจิตใจและความคิดมากกว่ามากกว่า
นอกเหนือจากเวลาที่เป็นงานประจำ ก็เป็นเวลาของเรื่องอื่น ๆ ทันที ทิ้งงานประจำไว้เลย นาน ๆ ที ถึงต้องเอางานกลับมาทำที่บ้าน
แต่ก็ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรมากนะ.. ตารางเวลาสำหรับช่วงเวลานี้ก็คงแบ่งออกประมาณ
8 ชั่วโมงสำหรับงาน 2 ชั่วโมงเดินทาง เหลือเวลาตั้ง 14 ชั่วโมงต่อวันที่จะทำเรื่องอื่น ๆ สำหรับตัวเองและคนอื่น ๆ มีเวลาทำดีด้วย..
แล้วทำไมหลาย ๆ คนบอกว่าไม่มีเวลา.. คนเราที่ทำงานต่อเนื่องกันเกินว่า 8 ชั่วโมงนี่ จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงเหรอ?
อาจต้องไปหาบทวิจัยของผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ มาอ่านกันนะ.. ส่วนใหญ่มักจะชี้ว่า ประสิทธิภาพมักจะลดลง เพราะความอ่อนล้าสะสม
ดังนั้น ใครอยากจะทุ่มเทแรงกายแรงใจ ให้กับงานเป็นความสำคัญอันดับหนึ่งในชีวิตก็แล้วแต่คุณ ส่วนผมขอเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับงาน เฉพาะช่วงเวลาทำงานเท่านั้นก็พอแล้ว
อาจเป็นเพราะจัดเรียงความสำคัญในชีวิตใหม่ ๆ แล้วเวลาก็เลยมีมากพอที่จะทำอะไร ๆ ได้หลายอย่างละมั้ง..
ช่วงเช้า ๆ เวลาที่ไปนั่งอ่านหนังสือที่ท่าน้ำ มักจะมีผู้คน มีเรื่องราวต่าง ๆ วิ่งผ่านสายตา และการรับรู้เข้ามามากมาย นักร้องอิสระ ที่มาร้องเพลง พ่วงด้วยการขายแผ่นซีดี ผลงานของตัวเอง.. ซึ่งมักได้เงินจากผมไปซะบ่อย ๆ นักเรียน นักศึกษาที่มานั่งรอเพื่อน ๆ ก่อนไปเข้าเรียน คู่รักที่มานั่งรอกันและกัน คู่รักที่กำลังจะเปลี่ยนที่มานั่งตกลงเรื่องราว เพื่อแยกทาง แล้วก็เรื่องอื่น ๆ คนข้ามเรือ ไปทำงาน แม่ค้าขายข้าวโพด ร้านขายยา ร้านกาแฟหรู ชาวต่างชาติที่กำลังเดินชมบ้านเมือง คนพาหมามาเดินเล่น หมาจรจัดมาเดินเล่น นอนอาบแดด บ้างก็ขออาหาร แล้วยังมีนกอีกมากมาย เรื่องราวหลากหลายวิ่งผ่านประสาทการรับรู้ของผมทุก ๆ เช้า ไม่มีเรื่องไหนชัดเจน เพราะไม่ได้ตั้งใจจะรับรู้ เป็นเหมือนเงาราง ๆ ที่ติดอยู่ในความทรงจำ
แต่สิ่งหนึงที่เห็นได้ชัดก็อย่างสัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยสถานที่แห่งนี้ เพื่อวิ่งเล่น พักผ่อน ก็ทำตัวได้เหมาะสมกับผู้อาศัย ไม่ทำลาย สถานที่แห่งนี้ ต่างจากมนุษย์นะ เมื่ออาศัยอยู่ที่ไหน มักนำพาความเสื่อมเข้าไปด้วยเสมอ ขีดเขียนทำลาย ทิ้งของ ทำสกปรก ก่อเรื่องราวสุ่มเสี่ยงที่ผู้อื่นจะเกิดอันตราย.. อย่างการทิ้งไม้เสียบลูกชิ้นกับพื้น.. ความมักง่ายของมนุษย์มักก่อปัญหาเสมอ

เจ้าหมาน้อยตัวนี้คงดูถูกมนุษย์น่าดู ที่ทำลายสถานที่ที่ตัวเองอาศัย... ขีดเขียนเพื่อบอกรัก.. ทำเรื่องแย่ ๆ แล้วจะมีคนชื่นชมหรือ..
แล้วสัตว์ต่าง ๆ ก็คงดูถูกมนุษย์เราเช่นกัน ที่คอยแต่จะทำลายโลกใบนี้ไปเรื่อย ๆ จนโลกเราตอบโต้มาบ้าง..

เวลามีเท่า ๆ กันนั่นแหละครับ ใช้มันเพื่อทำความดีให้กับมนุษย์ สัตว์ร่วมโลก แล้วก็โลกเรากันบ้างนะ
อย่าทำตัวให้ต้องอายหมาไปมากกว่านี้เลยนะ..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น