วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ชีวิตอิสระ กับมะระมะลิ

หายหน้าหายตาไปเป็นสัปดาห์ เพราะเล่นเกมครับ เป็นเกมที่น่าสนใจมาก แล้วจะมาเล่าให้ฟังกันอีกทีนะ
เมื่อวานนี้วันเสาร์ ช่วงเช้า เข้าไปช่วยแม่เก็บมะม่วงในสวน ก็เป็นเรื่องปกตินะ ถ้ามีเวลาว่าง ก็ช่วยงานในสวนตามปกติ แต่ที่พิเศษกว่าก็คือ คราวนี้พาเจ้ามะลิกับมะระเข้าไปด้วย.. เป็นครั้งแรกที่พาเข้าไปในสวนนะ แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พาออกนอกบ้านนะ ทุกครั้งที่พาออก หรือได้ออกนอกบ้าน ก็จะร่าเริงเป็นพิเศษอยู่แล้ว คราวนี้พาพาเข้าสวน พอปลดสายจูงเท่านั้นแหละ คุณนึกออกไหม ว่าพวกมันจะทำิอะไรเป็นอย่างแรก
หนูมะลิกระโดลงท้องร่อง แล้วเจ้ามะระก็โดดตาม ว่ายน้ำข้ามร่องสวน ไปมา อย่างร่าเริง จนตัวมีแต่โคลนแล้วก็แหน.. ผมก็ได้แต่หัวเราะ แล้วก็ไปขึ้นต้นมะม่วง เก็บมะม่วงให้แม่ แม่จะเอาไปขายน่ะ... ระหว่างที่เก็บ คุณเกดแม่เจ้าสองมะ ก็มาช่วยเก็บที่ผมสอยจากข้างบนต้นแล้วส่งลงมาข้างล่าง ท่ามกลางเสียงกระโดดน้ำ เสียงเห่าเวลาไปเจอตัวอะไรแปลก ๆ ส่วนบนต้นอย่างผม ก็จะได้ยินเสียงแม่เจ้าสองมะ คอยตะโกนเรียก เพราะความเป็นห่วง.. จนเก็บมะม่วงจนพอแล้ว พาเจ้าสองมะกลับ ก็ต้องอาบน้ำเจ้าสอง มะทันที เพราะทนไม่ไหวกับโคลนแล้วก็แหนที่ติดเต็มตัว... ก็ตัวมันจากขาว ๆ กลายเป็นดำไปน่ะ..คิดดู

เห็นเจ้าสองมะร่าเริงมากขนาดนั้น ก็ย้อนมาดูคนเรานะ การที่คนเราต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบต่าง ๆ ก็เพื่อให้การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้นมีความสงบสุข และเป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วสงสัยไหม ว่าทำไมคนเราจึงต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์จำนวนมาก แต่สัตว์ไม่ต้อง.. ในความคิดผมเป็นเพราะคนเรานั้นมีความคิดจิตใจที่ซับซ้อนลึกซึ้งกว่าสัตว์ทั่ว ๆ ไป และในความคิดลึกซึ้งที่มีอย่างมากมายของสัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์นั้น.. มีทั้งความคิดที่สร้างสิ่งที่สร้างสรรค์ อย่างหนังสือ วรรณกรรม ศาสนา ยารักษาโลก ความรัก ฯลฯ แต่ก็ยังมีความคิดที่ทำให้เกิดสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ อย่างอาวุธ ยาเสพติด การเอารัดเอาเปรียบ การฆาตกรรม สงคราม ฯลฯ พวกนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องมีการสร้างกฎขึ้นมาเพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นระเบียบ และสงบสุข แล้วถ้าเราคิดต่อไปอีก... บางประเทศมีกฎเกณฑ์สำหรับการอยู่ร่วมกัน ไม่กี่ข้อ แต่ในประเทศเรามีเป็นร้อยข้อ.. เพราะอะไร การที่อยู่ร่วมกันโดยอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ไม่กี่ข้อ หมายความว่า ความคิดในด้านร้ายในจิตใจน้อย หรือความเห็นแก่ตัวต่ำ นั่นละมั้ง แล้วประเทศเราละ?
เมื่อเราอยู่ใต้กฎเกณฑ์ แล้วรู้สึกว่าไม่มีความสุขมาก ๆ คงต้องย้อนมองว่า เพราะเรามีความเห็นแก่ตัวสูงเกินไปหรือไม่? เราพร้อมที่จะอยู่ใต้กฎเกณฑ์นั้น ๆ หรือไม่? หากเรายังอยากอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์นั้น ๆ แต่ยังลดความเห็นแก่ตัวลงไปได้ไม่มาก ทำให้เกิดความทุกข์ ลองดูตัวอย่างเจ้าสองมะนะครับ ลองให้อิสระักับตัวเองบ้าง ให้ความสุขกับตัวเองอย่างเต็มที่ ซักช่วงหนึ่ง เพื่อความสุขครับ แต่ต้องไม่ใช่ภายใต้สถานที่ที่มีกฎเกณฑ์นั้น ๆ อย่างเจ้าสองมะ คือเข้าไปในสวน อย่างของคนเรา อาจเป็นการเปลี่ยนสถานที่ ไปเที่ยว หรือไปในที่ ๆ เราไม่รู้จักบ้าง จิตใจก็จะได้รับการปลดปล่อย อาจจะทำให้ส่วนอื่น ๆ ของกฎเกณฑ์ที่เราเบื่อหน่ายอยู่ก็ได้นะ
แต่สิ่งที่ลืมไม่ได้คือ การที่เราเปลี่ยนสถานที่ หมายความว่า เราเปลี่ยนการอยู่ภายใต้กฎอย่างหนึ่ง ไปสู่ภายใต้อีกกฎหนึ่งเสมอ ไม่มีที่ไหนที่ไม่มีกฎเกณฑ์ครับ อย่างการอยู่ร่วมกันของสัตว์ ย่อมต้องมีจ่าฝูง และมีการขับไล่ลูกตัวผู้ออกนอกฝูง ทั้งนี้ เพื่อให้สายพันธุ์นั้น ๆ มีความแข็งแรงอยู่เสมอ มันอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เพื่อความอยู่รอดของสายพันธุ์ แต่คนเราข้ามสิ่งเหล่านี้มาแล้วครับ เรื่องส่วนนี้ผมมีแนวความคิดค่อนข้างเยอะ แล้วจะแยกออกมาเล่าให้ฟังต่างหาก... คนเรานั้นก็ย่อมอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอครับ...

ถ้าหากเครียดกับการอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เดิม ๆ ลองเปลี่ยนสถานที่ดูบ้าง ความคิดอาจจะพัฒนาขึ้น..
แต่อย่างลืม แม้เราจะหลีกหนีจากกฎเกณฑ์ที่เราไม่ชอบได้ แต่ก็ต้องไปอยู่ภายใต้อีกกฎเกณฑ์หนึ่งอยู่ดี
แม้แหวกกฎเกณฑ์เดิม ๆ ได้ ยังต้องพบกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ..

ทำจิตใจให้เข้าใจถึงกฎเกณฑ์ พักผ่อนซะบ้าง ลดความเห็นแก่ตัวลงอีกซักหน่อย อยู่ที่ไหนก็มีความสุขครับ

1 ความคิดเห็น: