วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อย่าได้เชื่อถือโดยเหตุสักว่า (4)

รูปน้องอิ๊กคิวส่งมาให้โดย MMS

วันเสาร์ที่ผ่านมามีเรื่องน่ายินดี คือน้องคนหนึ่ง เจ้าเอ๋ ภรรยาของเขาน้องเอ็นคลอดลูกสาว
การกำเนิดใหม่ (อุบัติ) ย่อมส่งผลดีแก่โลกนี้ การเกิดของลูกสาวของเขา คงจะสร้างสิ่งใหม่ ๆ ให้กับชีวิตเขาได้อีกมาก
การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ในการดำเนินชีวิตกำลังรอเขาอยู่แล้ว ก็ขอแสดงความยินดี และเป็นกำลังใจให้ พยายามเข้านะไอ้น้อง

คราวนี้ก็กลับมาว่ากันต่อในเรื่องของ การอย่าเชื่อถือ ข้อที่ 4
"อย่าได้เชื่อถือโดยเหตุสักว่า มันมีอ้างไว้ในตำรา"
เคยได้ยินดำพูดประชดประชันที่ว่า
"จบปริญญาตรีเชื่อตำรา จบปริญญาโทเชื่อตัวเอง จบปริญญาเอกเชื่อหมอดู" ไหมครับ ผมคิดว่าเป็นคำพูดที่เป็นจริงทีเดียวนะ
เมื่อคนเราเรียนจบปริญญาตรี ก็มักจะเป็นเพราะมีการสอน และอ่านเยอะ และการที่จะเรียนจบก็คงต้องพยายามอ่านอย่างมาก จนไม่มีเวลาวิเคราะห์ว่าจริงแค่ไหน?
ส่วนปริญญาโทก็ต้องอาศัยความคิดวิเคราะห์ของตนเองเป็นหลัก เลยมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง จนลืมดูว่ารอบตัวนั้นมีคนเก่งกว่าตัวเองอยู่มากมาย ทั้งที่คนพวกนั้นไม่จบปริญญาด้วยซ้ำ
และปริญญาเอกนั้น... ข้อนี้ลองไปคิดกันเอาเองครับ แล้วส่งความเห็นมาจะเอามาแทรกในหัวข้อนี้ให้ โดยส่วนตัวเท่าที่สัมผัส หรือรู้จักมา ปริญญาเอกทั้งหลายก็เป็นจริง ๆ แล้วยังงมงายหนักซะด้วย

เมื่อก่อนนี้ ผมมีคติในเรื่องการเรียนอยู่ว่า
"ปริญญาตรีกันหมากัดได้ ปริญญาโทตีหมาได้ ปริญญญาเอกสั่งหมาได้"
เนื่องจากเมื่อจบปริญญาตรี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นก็กั้นไม่ให้คนอื่น ๆ ค่อยแหนบแนมเรา ในเรื่องการศึกษาได้ หากจบปริญญาโทก็ทำให้เรามีความสามารถจัดการกับผู้คนรอบข้าง
ที่ต่ำกว่าได้ และถ้าจบปริญญาเอก ก็สามารถสั่งการได้เช่นกัน

แต่ด้วยความคิดในปัจจุบัน คติเรื่องการเรียนของผมเปลี่ยนไปแล้ว
ปริญญาตรีที่เอาไว้กันหมา มันก็กันได้หลายตัว หลายพันธุ์อยู่
ปริญญาโทที่เอาไว้ตีหมา ก็เพียงตีได้เพียงหมายสองสามตัว และไม่กี่พันธุ์เท่านั้น
ปริญญาเอกที่เอาไว้สั่งหมา ก็เพียงตัวเดียว พันธุ์เดียว
ยิ่งเรียนสูงจิตใจยิ่งคับแคบลง ความเห็นใจต่อผู้อื่นยิ่งต่ำลง แม้ไม่ใช่ทุกคน แต่ที่ผมได้สัมผัส ส่วนใหญ่เป็นครับ
แต่ผมก็ยังอยากเรียนจนจบปริญญาเอกนะ เพราะผมมั่นใจว่าผมยังคงเป็นผมได้ แม้จะมีความรู้มากขึ้น หรือระดับการศึกษาสูงขึ้นก็ตาม

เมื่ออ่านหนังสือ หลาย ๆ เล่ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร อย่าเพิ่งเชื่อในตัวหนังสือนั้นทั้งหมดครับ เราควรพิจารณาว่าเนื้อหาเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?
เราสามารถอ่านหนังสือแล้วพิจารณา วิเคราะห์ เพื่อเลือกที่จะเชื่อและไม่เชื่อในบางสิ่งได้ครับ อย่างคนที่อ่านในสิ่งที่ผมเขียน ไม่ว่าจะในบล็อกนี้ หรือหนังสือเล่มอื่น ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อ
และผมก็แนะนำว่าไม่ให้เชื่อ แต่ให้วิเคราะห์และพิจารณากันเอาเองด้วยเหตุด้วยผลว่าถูกต้อง เป็นจริงหรือไม่ แล้วค่อยตัดสินใจที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อครับ

ไม่มีหนังสือเล่มไหนในโลกนี้ที่มีสาระ โดยที่คุณยังไม่ได้อ่าน
ไม่มีหนังสือเล่มไหนในโลกนี้ที่มีประโยชน์ โดยที่คุณอ่านแล้วยังไม่เข้าใจครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น