วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

อย่าได้เชื่อถือโดยเหตุสักว่า (5)

ช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย อันเป็นเรื่องที่มีทั้งอยู่ใกล้ตัวและไกลตัว
และเป็นการยืนยันความจริงที่สุดที่คงอยู่ ของคำสอนที่มาจากพระพุทธเจ้า
ทั้งการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ไม่มีใครหนีรอดจากทั้ง 4 เรื่องนี้ไปได้หรอกครับ
เพียงแต่เราจะมีการกำหนด และเตรียมตัว เตรียมใจ ทำความเข้าใจ เพื่อจะรับได้เมื่อถึงเวาลาที่ต้องเกิดหรือไม่..

ว่าแล้วก็เอาเรื่องต่าง ๆ ไว้ก่อน เก็บไว้เล่าให้ฟังวันหลัง.. เอ เหมือนว่าผมจะติดเอาไว้หลายเรื่องนะครับ ยังไง ก็จะทยอย ๆ มาเล่าให้ฟังละกัน

วันนี้มาคุยกันในเรื่องของความอย่าเชื่อกันต่อในข้อที่ 5
อย่าได้เชื่อถือ โดยการคาดเดาของตนเอง
ข้อนี้เป็นสิ่งชี้ที่สำคัญเกี่ยวกับคนเราเลยทีเดียว คนเราจำนวนมากที่เมื่อรู้อะไรสักเล็กน้อย และบางอย่างที่ยังไม่ชัดเจน ในความรู้นั้น ๆ ก็เดาเอา แล้วมาประกอบกับความรู้เล็กน้อยที่ตนรู้มาก่อน
และเชื่ออย่างจริง ๆ จัง ๆ ว่าสิ่งที่ตนคิดนั้นถูกต้อง โดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์หรือหาหลักฐานมายืนยัน ความคิดของตน ผมว่าอย่างนี้เป็นการเดา เท่านั้นเอง
และเมื่อเดาแล้วก็เชื่อมั่นอย่างจิรงจัง ว่าเป็นจริง ถูกต้องจริง และยึดมั่นในความคิดส่วนนี้ แล้วที่ร้ายกว่านั้นคือบางคนมีโอกาสเอาไปเผยแพร่กับผู้อื่นอีกด้วย

ทำไมคนเราจึงชอบที่จะเดาเรื่องต่าง ๆ กันนัก
เพราะความไม่รู้ หรือเพราะรู้ไม่พอ
เพราะไม่ได้เรียนรู้ หรือไม่ยอมเรียนรู้
เพราะไม่รู้ตัวตน หรือไม่ยอมรับว่าตนไม่รู้

ผมไม่สามารถจะหาเหตุผลที่ดีมาตอบความไม่เชื่อในเรื่องนี้ได้ เพราะตัวผมเองก็ยังเป็นคนที่ยังใช้การเดาอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่เผยแพร่ออกไปเท่านั้น
ผมคิดว่าเมื่อยังเป็นผู้ไม่รู้ ย่อมคู่อยู่กับการคาดเดา
ดังนั้น อย่าเอาความคิดเห็นส่วนตัวที่เกิดจากการเดา และอาจจะไม่เป็นจริงเช่นนี้ มานำการใช้ชีวิตครับ
และผมกำลังพยายามอยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น