วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ผมเป็นคนที่มีความสุข

หรือจะพูดให้ถูกคงต้องเรียกว่า ผมในเวลานี้ เป็นคนที่มีความสุข
ความสุขยังไงน่ะเหรอ ความสุขนั้นมันอยู่ที่ใจนะครับ หากคิดว่าเป็นความสุข มันก็เป็นความสุขแล้วละครับ
มีบ้านหลังเล็ก ๆ มีแฟนที่น่ารัก มีหมาตลก ๆ มีพ่อแม่พี่น้องที่เข้าใจ มีเพื่อน ๆ ที่รักกันดี แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
เมื่อก่อนนี้ ผมเอาเป็นคนที่ไม่มีความสุขอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ในใจคิดว่ามีความสุขก็ได้นะ

ไม่เคยอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เพราะไม่อยากผ่อนไม่อยากเป็นหนี้ แต่กินเหล้า เที่ยวเตร่ ใช้จ่ายซะ แบบว่าใจใหญ่ หนี้บัตรเครริตพุ่งกระฉูด ตรงไหนเป็นความสุขที่ไม่อยากเป็นหนี้ มันก็เป็นหนี้ เหมือนกันนั่นแหละ
เมื่อเที่ยวมาก ๆ ดื่ม มาก ๆ มันก็ทำให้ใจของเรามันเป็นไปตามนั้นด้วย โดยเห็นว่ามันเป็นความสุข ที่ได้เที่ยว ได้ดื่ม แล้วด้วยงานที่ทำต้องเดินทางบ่อย ๆ ทั่วประเทศ แล้วบางครั้งก็ต่างประเทศมันก็เลยยิ่งแล้วใหญ่ ตื่นตา ตื่นใจ ไปกับสถานที่ใหม่ ๆ เสมอ

ไม่เคยอยากมีครอบครัว เพราะทะนงตัวว่าสามารถหาแฟนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ได้หน้าตาดี ไม่ได้คารมดี แต่ดวงดีเรื่องผู้หญิง ต้องบอกไว้ก่อน เดี๋ยวใครอ่านแล้วจะคิดว่าหลงตัวเอง ซึ่งเมื่อก่อนนี้ก็คงหลงตัวเองจริง ๆ นั่นแหละ เคยคบผู้หญิงทีละหลายคน คุณว่ามีความสุขไหม กับการที่ต้องไปดูหนังเรื่องเดียวกันซ้ำ ๆ 3 รอบ 4 รอบ กับแฟน ๆ แต่ละคน แล้วยังพาลทำให้เราเป็นคนขี้หึง ขี้ระแวงอีก เพราะว่าเราคบหลายคน แล้วคนที่คบกับเราละ เพราะเราทำเราจึงคิด เพราะเราเป็นเราจึงเห็น ก็กลายเป็นปัญหาพ่วงมาเป็นการที่ไว้ใจคนยากอีก เฮ้อ... แต่ผมก็เป็นคนที่ไม่เคยเห็นผู้หญิง เป็นสินค้านะครับ ไม่เคยไปซื้อบริการ ไม่เคยสนับสนุน แต่ไม่ได้ดูถูก หรือคบไม่ได้

วันนึงเรื่องทั้งหมดที่เคยเห็นว่า ดี ว่าสนุก ว่ามีความสุข ก็เปลี่ยนไป หมายถึงว่าวันนึงก็คิดเลยนะ แล้วก็เลยบอกกับเพื่อน ๆ ว่า ถ้ายังเคลียร์หนี้บัตร ไม่หมด ก็ ไม่กินเหล้า
แล้วก็เริ่ม คิดเรื่องปลูกบ้าน โชคดีที่มีที่ดินที่พ่อแม่ให้ไว้ เลยปลูกบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ ได้ แต่เอาเข้าจริงๆ แค่ถมดิน ก็หมดเป็นแสน สองแสนแล้วนะ นั่นแน่ คนที่อ่านน่ะ อย่าคิดว่าผมรวยนะ ถ้าคิดแสดงว่าคุณคิดกันผิด ซะแล้ว ผมเป็นแค่คนธรรมดา พอมีพอกิน มีพ่อเป็นทหารชั้นประทวน กับแม่ที่เป็นชาวสวน เงินเดือนก็ปานกลาง ปลูกบ้านผ่อนกัน 30 ปีน่ะ เดินเรื่องทุกอย่างเองหมด ตั้งแต่แบบบ้าน ขออนุญาตปลูก ขออนุญาตกู้เงิน เดี๋ยวค่อยเขียนให้อ่านกันวันหลัง ปวดหัวอยู่กับการปลูกบ้าน 8 เดือน พอบ้านเสร็จ ก็รู้สึกดีขึ้นมาก ๆ แฟน, ครอบครับ, เพื่อน ๆ คอยให้กำลังใจตลอด พอบ้านเสร็จ เลยเปลี่ยนสถานะแฟนมาเป็นคู่ชีวิตซะเลย

อะไร อะไร ที่เคยทำให้ชีวิตวุ่นวาย ก็น้อยลง
วุ่นวายน้อยลง จิตใจก็สงบขึ้น มีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น
มองโลกในแง่ดีมากขึ้น

เหล้านี่ กินเข้าไปเช้าก็ปวดหัว แต่ยังอยู่ในวงเหล้าได้เพราะบรรยากาศมันสนุก แต่กินน้อยลงมาก ๆ
เที่ยวกลางคืนนี่แทบไม่ไป เพราะขี้เกียจ แล้วเคยเห็นคนแก่ หรือคนจรจัด ไม่มีที่อยู่ที่เขากินกันไหม?
เห็นแล้วไม่อยากไปเที่ยวกลางคืน กินของแพงๆ เพราะเห็นความแตกต่างระหว่างโลก เฮ้อ...

ผมเป็นคนที่ชอบต้นไม้ แล้วก็ธรรมชาติมาก ทีค่บ้านปลูกกล้วยไม้ กับต้นไม้ไว้เยอะแยะ จนแฟนแซวว่าเป็นสวนพฤกษศาสตร์ ไปแล้ว พอเลี้ยงหมา หมาเด็กมันก็กัดเล่นซน ไปตามประสา ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงหงุดหงิดตายไปแล้ว แต่ตอนนี้ ก็แค่คิดว่า มันซนดีจริง ๆ เดี๋ยวค่อยปลูกเอาใหม่ ซึ่งคิดอย่างนี้ ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นนะ

ผมเป็นคนชอบถ่ายรูป แล้วก็ถ่ายรูปมานานแล้ว เป็นสิบ ๆ ปีละมั้ง พอโลกเปลี่ยนมาเป็นยุคดิจิตอล กล้องดิจิตอล ความอยากก็บังเกิดอีก แต่ตอนนี้คิดว่าถ้าจะเอากล้องตัวใหม่ ถ้าไม่ได้ซื้อ Leica M8 ด้วยเงินสด ไม่ซื้อ คิดแล้วก็สบายใจ แล้วอีกอย่างก็ถ่ายรูปมาเยอะ บอกกับใคร ๆ ได้แล้วว่า กระบี่มันอยู่ที่ใจ กล้องอะไรก็ได้ ถ่ายได้ทั้งนั้นแหละ แค่นี้ ก็มีความสุขแล้ว

ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ มีหนังสืออยู่ 2 ตู้เต็ม ๆ ซึ่งอ่านแล้วเกือบทั้งหมด เมื่อก่อนนี้ พอเห็นหนังสือใหม่ อ่านคำนำ ถ้าถูกใจก็ซื้อเลย เดี๋ยวนี้ ค่อย ๆ อ่านคร่าว ๆ ถ้าถูกใจค่อยซื้อ ชีวิตเหมือนจะช้าลง แต่เป็นสุขมากขึ้น

มีความรู้สึกว่าช่วงนี้ ชีวิตช้าลง ทำให้มองเห็นโลกกว้างขึ้น
ความอยากได้อยากมีต่ำ จิตใจสงบ ความสุขก็มาเอง

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ07 มีนาคม, 2552 22:42

    ขอบคุณมาก ๆ นะครับสำหรับข้อมูล

    ตอบลบ